นายนันทชัย ปัญญาสุรฤทธิ์ โฆษกสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า ผู้ประกันตนที่ยังไม่ได้ใช้สิทธิกรณีทันตกรรม ในปีนี้ (2563) ให้รีบไปใช้สิทธิภายในวันที่ 31 ธันวาคม นี้ เนื่องจากสิทธิประโยชน์กรณีทันตกรรมเป็นสิทธิปีต่อปี หากไม่ใช้สิทธิในปีนี้ถือว่าเสียโอกาสในการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากในปีนี้
อยากเชิญชวนผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม เข้ารับบริการตรวจสุขภาพช่องปากประจำปีตามรายการตรวจที่ได้รับสิทธิ ทั้งอุดฟัน ถอนฟัน ขูดหินปูน และผ่าฟันคุด โดยไม่ต้องสำรองจ่าย วงเงินไม่เกิน 900 บาทต่อคนต่อปี สามารถใช้บริการได้ที่สถานพยาบาลหรือคลินิกที่ทำข้อตกลงไว้ โดยสังเกตป้ายสติกเกอร์ที่ระบุว่า สถานพยาบาลแห่งนี้ให้บริการผู้ประกันตนกรณีทันตกรรมทำฟันไม่ต้องสำรองจ่าย ส่วนค่ารักษาที่เกินผู้ประกันตนก็ต้องรับผิดชอบเอง แต่ถ้าผู้ประกันตนเข้ารับบริการกรณีทันตกรรม ในสถานพยาบาลหรือคลินิกที่ไม่ได้ทำตามข้อตกลงเรื่องการเบิกจ่ายเงิน ผู้ประกันตนก็สามารถนำหลักฐาน ได้แก่ ใบเสร็จ ใบรับรองแพทย์ พร้อมสำเนาสมุดบัญชีธนาคารของผู้ประกันตน ยื่นต่อสำนักงานประกันสังคมได้ทุกแห่งทั่วประเทศ เพื่อขอรับเงินที่สำรองจ่ายไป โดยยื่นเอกสารได้ภายในระยะเวลา 2 ปี นับตั้งแต่วันที่เข้ารับบริการตามระบุในใบรับรองแพทย์
นอกจากผู้ประกันตนจะมีสิทธิในการขูดหินปูน ถอนฟัน ผ่าฟันคุด และอุดฟัน โดยไม่ต้องสำรองจ่าย ผู้ประกันตนยังสามารถทำฟันเทียม หรือฟันปลอม โดยมีสิทธิ์ได้รับค่าทำฟันปลอมและค่ารักษาพยาบาล ในระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ใส่ฟันปลอม โดยแยกเป็น 2 กรณีคือ ฟันปลอม ชนิดถอดได้บางส่วน และฟันปลอมชนิดถอดได้ทั้งปาก
สำหรับฟันปลอมชนิดถอดได้บางส่วน จำนวน 1-5 ซี่ ประกันสังคมจ่ายในวงเงินไม่เกิน 1,300 บาท จำนวน 5 ซี่ จ่ายเท่าที่จ่ายจริง วงเงินไม่เกิน 1,500 บาท
ส่วนฟันปลอมชนิดถอดได้ทั้งปากบน หรือ ล่าง สามารถเบิกได้เท่าที่จ่ายจริง วงเงินไม่เกิน 2,400 บาท และฟันปลอม ชนิดถอดได้ทั้งปากบนและล่าง เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงในวงเงินไม่เกิน 4,400 บาท
