Font Resizer

A Decrease font size. A Reset font size. A Increase font size.

672 views

นายกรัฐมนตรีนำครม.เยี่ยมชมสถานีกลางบางซื่อ นับถอยหลังเตรียมเปิดให้บริการปลายปี 64


วันนี้ (15 ธ.ค. 63) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีนำคณะรัฐมนตรี เยี่ยมชมสถานีกลางบางซื่อ พร้อมรับฟังแผนการพัฒนาที่ดินบริเวณรอบสถานีกลางบางซื่อ และทดลองเดินขบวนรถไฟฟ้าสายสีแดง ระหว่างสถานีกลางบางซื่อ – สถานีรังสิต

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ระบบคมนาคมขนส่งทางราง” ที่มีประสิทธิภาพ ช่วยเชื่อมโยงทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมโอกาสด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว รวมถึงสนับสนุนการขยายตัวของเมืองและพื้นที่เศรษฐกิจตลอดแนวเส้นทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พื้นที่ย่านบางซื่อของการรถไฟฯ ซึ่งได้มีแผนพัฒนาพื้นที่บริเวณนี้ควบคู่ไปกับสถานีกลางบางซื่อ ในระยะยาว จะช่วยขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการคมนาคมและการขนส่งทางรางที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน นับเป็นก้าวย่างสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ของการพัฒนาระบบรางและการพัฒนาประเทศตามเป้าหมายและยุทธศาสตร์ของรัฐบาลที่วางไว้

ด้าน นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า สถานีกลางบางซื่อแห่งนี้จะเป็นศูนย์กลางการคมนาคมและการขนส่งทางรางที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ และมีมาตรฐานเทียบเท่าสถานีรถไฟชั้นนำของโลก ในการออกแบบสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารและทุกคนตามหลักอารยสถาปัตย์ สามารถเปลี่ยนถ่ายการเดินทางจากระบบราง ทั้งรถไฟทางไกล รถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้าเชื่อมสนามบิน และยังเชื่อมต่อการเดินทางของระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในเขตเมือง และระบบขนส่งรูปแบบอื่น ๆ อาทิ รถสาธารณะ รถโดยสารประจำทาง รถโดยสาร บขส. รถแท๊กชี่ ได้ครบครัน รวมถึงการพัฒนาพื้นที่โดยรอบ เพื่อให้เกิดการกระตุ้นและขยายธุรกิจและเศรษฐกิจในพื้นที ส่งเสริมให้เกิดการกระจายโอกาสในด้านต่าง ๆ สู่ประชาชน ทั้งในด้านของการสร้างงาน สร้างอาชีพ ยกระดับคุณภาพชีวิต ซึ่งเป็นเป้าหมายที่กระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการในการมุ่งพัฒนาประเทศอย่างบูรณาการ

ด้านนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันงานก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อ ศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟชานเมือง และงานก่อสร้างสถานีรถไฟสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน จำนวน 13 สถานี และงานก่อสร้างถนนเลียบทางรถไฟ ดำเนินการก่อสร้างงานโยธาแล้วเสร็จ คงเหลืองานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมจัดหาตู้รถไฟฟ้าสำหรับช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ประกอบด้วย งานระบบราง ระบบควบคุมการเดินรถและระบบอาณัติสัญญาณ ระบบโทรคมนาคม ระบบจำหน่ายตั๋วโดยสาร อุปกรณ์สำหรับศูนย์ซ่อมบำรุง ระบบรักษาความปลอดภัย สถานีไฟฟ้าย่อยและหม้อแปลงไฟฟ้า ระบบขับเคลื่อนรถไฟฟ้า และระบบอื่น ๆ งานจัดหาตู้รถไฟฟ้ารวมถึงการจัดเตรียมอบรมบุคลากรในการบริหารและซ่อมบำรุงระบบรถไฟฟ้า มีความก้าวหน้าร้อยละ 89.10 โดยคาดว่าจะทดสอบการเดินรถเสมือนจริง แล้วเสร็จเดือนมีนาคม 2564 จากนั้นจึงจะเปิดให้ประชาชนได้ทดลองใช้บริการ ในเดือนกรกฎาคม 2564 และเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ในเดือนพฤศจิกายน 2564

หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะเยี่ยมชมสถานีกลางบางซื่อ สำหรับสถานีกลางบางซื่อ ประกอบด้วยอาคารทั้งหมด 3 ชั้น คือ ชั้นที่ 1 เป็นพื้นที่จำหน่ายตั๋วโดยสารและจุดเชื่อมต่อการเดินทางด้วยระบบรางในกรุงเทพฯ ชั้นที่ 2 เป็นชั้นชานชาลา ประกอบด้วย รถไฟทางไกล 8 ชานชาลา และรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง 4 ชานชาลา และชั้นที่ 3 เป็นชั้นชานชาลาสำหรับรถไฟเชื่อมท่าอากาศยาน และชานชาลารถไฟความเร็วสูง โดยแบ่งเป็นชานชาลาสำหรับรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน 2 ชานชาลา รถไฟฟ้าความเร็วสูงสายเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 6 ชานชาลา รถไฟฟ้าความเร็วสูงสายใต้ จำนวน 4 ชานชาลา รวมทั้งสิ้น 12 ชานชาลา

นอกจากนี้ ยังมีชั้นใต้ดิน ซึ่งเป็นพื้นที่จอดรถ ที่สามารถจอดรถยนต์ได้ถึง 1,624 คัน มีถนนทางเข้าออกสถานีได้หลายทิศทาง เชื่อมต่อกับทางด่วนพิเศษ มีพื้นที่รองรับรถโดยสารประจำทางและรถแท็กซี่ และยังมีพื้นที่สวนสาธารณะพร้อมบึงน้ำขนาดใหญ่ ด้านการบริหารสถานีในระยะแรก การรถไฟแห่งประเทศไทยจะเป็นผู้บริหารสถานีกลางบางซื่อ และมอบหมายให้ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นผู้บริหารจัดการเดินรถไฟชานเมือง สายสีแดง รวมถึงการบริหารสถานีรถไฟสายสีแดง จำนวน 12 สถานี โดยเมื่อโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิตและช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน เปิดให้บริการแล้วคาดว่าจะมีผู้โดยสารมาใช้บริการประมาณ 86,000 คน-เที่ยว/วัน ซึ่งจะส่งผลให้สถานีกลางบางซื่อกลายเป็นศูนย์กลางการเดินทางด้วยระบบรางแห่งใหม่ของประเทศ รวมทั้งเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

จากนั้นนายกรัฐมนตรี และคณะ ได้ทดลองเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายสีแดงจากสถานีกลางบางซื่อไปยังสถานีรังสิต เพื่อดูความคืบหน้าของงานก่อสร้าง ซึ่งรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อถึงดอนเมืองเป็นทางรถไฟยกระดับใช้ความเร็วในการเดินทาง 120 กม./ชม. และช่วงดอนเมืองถึงรังสิต ซึ่งเป็นทางรถไฟระดับผิวดิน มีรั้วกันสองข้างทางและสร้างถนนยกระดับข้ามทางรถไฟ สามารถใช้ความเร็วในการเดินทางได้ 140 กม./ชม. หลังทดสอบแล้วเสร็จจะสามารถให้บริการแก่ประชาชนในจังหวัดปทุมธานี

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีและคณะร่วมรับฟังแผนต่อขยายสายสีแดงในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี โดยมีนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ให้การต้อนรับ ซึ่งโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้ม ช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ซึ่งคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 2565 โดยสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้นำเสนอแนวทางการเชื่อมต่อสถานีรถไฟรังสิตกับโครงข่ายต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน อีกทั้งการรถไฟฯ คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และการเคหะแห่งชาติ ร่วมกันกำหนดแนวทางการพัฒนาโครงการอาคารเช่าสำหรับผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน เป็นอาคารพักอาศัยสูง 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร จำนวน 360 ห้อง โดยอยู่ระหว่างสำรวจพื้นที่ และจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ในมิถุนายน 2564 เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อเริ่มก่อสร้าง และให้ประชาชนเข้าพักอาศัยในตุลาคม 2566 อันเป็นการบูรณการระบบรางควบคู่กับการพัฒนาเมืองตามแนวนโยบายของรัฐบาลต่อไป


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แจ้งข้อมูลเบาะแส