นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่กระทรวงการคลังปรับแก้ไขระบบเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน. com เพิ่มปุ่มยกเลิกลงทะเบียน เพื่อให้โอกาสกับประชาชนที่อาจจะไม่ได้ตั้งใจกรอกข้อมูลอันเป็นเท็จให้สามารถไปยกเลิกการลงทะเบียนได้
ปุ่มยกเลิกลงทะเบียนเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย. จนถึงขณะนี้วันที่ 11 เม.ย. รวมเวลา 8 วัน มียอดผู้ขอลงทะเบียนยกเลิกเข้าร่วมมาตรการรับเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 แล้วจำนวนกว่า 610,000 คน หรือคิดเป็นอัตราเฉลี่ยมีประชาชนเข้าใช้บริการปุ่มยกเลิกกว่า 76,000 คนต่อวัน ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่ค่อนข้างสูง ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะกระทรวงการคลังได้ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง โดยสั่งการทีมกฎหมายของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ตรวจสอบอย่างเร่งด่วน
ล่าสุดวานนี้ (10 เม.ย.63) กระทรวงการคลังได้ยื่นเอกสารหลักฐานประสานความร่วมมือไปยังศูนย์ปราบปรามอาชญกรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินการเอาผิดกับผู้โพสต์ข้อความลงสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับการเงินเยียวยาโควิด-19 จำนวน 5,000 บาท ทั้งหมด 5 ราย ซึ่งยิ่งทำให้ตัวเลขขอยกเลิกการลงทะเบียนพุ่งสูงถึง 5,000 ราย ภายในเวลาเพียง 2 ชั่วโมง ตั้งแต่ 20.00-22.00 นาฬิกา ของวานนี้ (10 เม.ย.63)
นอกจากนี้กระทรวงการคลังได้ตั้งทีมกฎหมายเพื่อติดตามการเผยแพร่ข้อมูลของบุคลลต่าง ๆ ในโลกออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับการแจกเงิน 5,000 บาทในทางที่ไม่สมควร โดยแบ่งเป็น 2 กรณี คือ
- กรณีที่ 1 คนที่ได้รับเงิน 5,000 บาทจริง และมีการไปโพสต์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ว่า ได้เงินมาอย่างที่ไม่ควรได้ กระทรวงการคลังจะทำการตรวจสอบข้อมูลย้อนกลับ หากพบว่าผู้นั้น ขาดคุณสมบัติจริงก็จะทำการระงับการจ่ายเงินในเดือนต่อไป และให้ส่งเงินที่ได้รับ 5,000 แรกคืนให้กับรัฐบาล โดยที่รัฐบาลจะไม่ดำเนินคดี
- กรณีที่ 2 ผู้โพสต์ข้อความในสื่อสังคมออนไลน์ว่าได้รับเงิน 5,000 บาท แต่ไม่ได้รับจริง ถือเป็นการสร้างความปั่นป่วนกับสังคม กระทรวงการคลังจะดำเนินคดีทางกฎหมายเอาผิดต่อไป การนำเข้าข้อมูลเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ต่อไป
ทั้งนี้ การตั้งใจกรอกข้อมูลหลอกลวงรัฐเพื่อหวังลงทะเบียนรับเงิน 5,000 บาทจากรัฐบาล เข้าข่ายเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานฉ้อโกง มาตรา 341
- โทษขั้นสูงจำคุก 3 ปี
- ปรับ 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ความผิดฐานแจ้งความเท็จตามมาตรา 137
- โทษขั้นสูงจำคุก 6 เดือน
- ปรับ 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนผู้ที่โพสต์หมิ่นรัฐบาล มีความผิดตามมาตรา 136
- โทษขั้นสูงจำคุก 1 ปี
- ปรับ 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ