36 views

มหกรรมไกล่เกลี่ยช่วยลูกหนี้ “มีอยู่ มีกิน มีใช้” นายกฯ ฝากนำเทคโนโลยี AI มาใช้ เพื่อประชาชน


นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พบปะนักศึกษาและผู้ปกครองที่เข้าร่วมมหกรรมไกล่เกลี่ยช่วยลูกหนี้ “มีอยู่ มีกิน มีใช้”ณ ลานพิกุล มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งจัดโดยกระทรวงยุติธรรม กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กรมบังคับคดี และสำนักงานยุติธรรมจังหวัดในพื้นที่ ร่วมบูรณาการกับกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกหนี้ กยศ. ที่มีปัญหาหนี้สินได้เข้าร่วมโครงการปรับโครงสร้างหนี้และได้รับความช่วยเหลืออย่างเหมาะสม โดยมุ่งสร้างความเป็นธรรม ช่วยลดภาระของลูกหนี้ พร้อมส่งเสริมการคืนหนี้เข้าสู่ระบบในรูปแบบที่ยั่งยืน

นายกรัฐมนตรีได้ทักทายพูดคุยและถ่ายภาพเซลฟี่ กับประชาชนอย่างใกล้ชิดเป็นกันเอง ขณะที่ประชาชนชาวจังหวัดนราธิวาสหลายพันคนที่มารอต้อนรับและตะโกนให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีสู้ๆ พร้อมทั้งขอบคุณที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาเยี่ยมเยือนถึงบ้านที่จังหวัดนราธิวาส

จากนั้นนายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมบูธผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในพื้นที่ เช่น ผลิตภัณฑ์จากเรือนจำจังหวัดนราธิวาส รวมทั้งติดตามเยี่ยมชมบูธกิจกรรมการแก้ไขปัญหายาเสพติด ติดตามนโยบายรัฐบาลและรับฟังสรุปรายงานผลการดำเนินงานของ ศอ.บต. โดยเลขาธิการ ศอ.บต. ด้วย

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี รับชมการแสดงจากเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ชุดระบำลีลาชาชัก พร้อมกล่าวเปิดโครงการมหกรรมไกล่เกลี่ยช่วยลูกหนี้ “มีอยู่ มีกิน มีใช้” ตามนโยบายรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่ารู้สึกดีใจที่ได้มาพบกับประชาชนชาวนราธิวาสและขอบคุณที่ทุกคนให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมกล่าวในนามของรัฐบาล ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่เปิดโอกาสให้ประชาชนได้เข้ามาไกล่เกลี่ยปรับโครงสร้างหนี้ เพราะเรื่องหนี้เป็นปัญหาที่เรื้อรังมายาวนานของประเทศไทย ซึ่งการปรับโครงสร้างหนี้และช่วยเหลือประชาชนในครั้งนี้ ทำให้ต้นทุนของประชาชนลดลง ทำให้มีแรงและกำลังในการจ่ายค่าครองชีพที่ถูกลง เพิ่มศักยภาพในการทำรายได้เพิ่มให้กับครอบครัวและตนเอง สิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง จึงขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยกันผลักดันในเรื่องนี้ ทั้งนี้ การผลักดันให้เกิดการปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ เป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจ ซึ่งเศรษฐกิจไทยเติบโตน้อยกว่าศักยภาพที่มีอยู่จริง เนื่องจากไทยพึ่งจะเริ่มมีการลงทุนอุตสาหกรรมแห่งอนาคตไม่นานเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ที่มีการลงทุนด้านอุตสาหกรรมแห่งอนาคตมามากกว่า ดังนั้น รัฐบาลจึงให้ความสำคัญในการผลักดันเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องต่อไป โดยการสนับสนุนเรื่องของการศึกษาเพื่อพัฒนาคนในประเทศและผลักดันในด้านต่างๆ ทั้งเรื่องของการ Upskill และ Reskill ให้คนมีศักยภาพเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับธุรกิจและการจ้างงานใหม่ๆ ที่จะเข้ามา ตรงนี้รัฐบาลได้เตรียมโอกาสไว้สำหรับประชาชนแล้วในเรื่องของการศึกษาที่ดีเพื่ออนาคตของประชาชน โดยขณะนี้รัฐบาลได้นำนโยบาย ODOS กลับมา เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับพี่น้องประชาชนทุกอำเภอทั่วประเทศไทย รวมถึงกรุงเทพมหานครด้วย เพื่อจะมีโอกาสได้ไปเรียนที่ต่างประเทศ รวมถึงการเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ ทั้งนี้ เมื่อมีโอกาสไปศึกษาที่ต่างประเทศ ขอให้ทุกคนเรียนรู้ในเรื่องของเทคโนโลยีและ AI ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับประชาชนอย่างมากในอนาคต เพราะความรู้และวิชาต่างๆ ที่ประชาชนได้รับจะเป็นสมบัติติดตัวตลอดไป ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลมองเห็นและอยากสร้างให้เกิดขึ้นในเยาวชนทุกคน เพื่ออีก 10 ปี 20 ปี ข้างหน้าเราจะได้คนคุณภาพต่อไปเรื่อยๆ การขยายโอกาสเป็นเรื่องสำคัญมาก รวมไปถึงการที่รัฐบาลมาดูในเรื่องของการแก้ไขปัญหาหนี้สินเป็นเรื่องพื้นฐานที่ประชาชนทุกคนควรจะได้รับการดูแลในเรื่องนี้ ควบคู่กับการทำให้ประชาชนได้หารายได้เพิ่มให้กับตนเองและครอบครัว จากนี้รัฐบาลจะพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างโอกาสดีๆ ให้กับประชาชนต่อไป ปีนี้เป็นปีแห่งโอกาส รัฐบาลจะพยายามทำให้พี่น้องประชาชนทุกได้รับโอกาสในทุกๆ พื้นที่

นายกรัฐมนตรี กล่าวฝากให้เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งหารือส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการหาแนวทางในการที่จะทำให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงการไกล่เกลี่ยปรับโครงสร้างหนี้โดยไม่ต้องเดินทางมายังจังหวัด โดยอาจจะใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ AI เข้ามาช่วย เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการนี้ได้อย่างรวดเร็ว


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

แจ้งข้อมูลเบาะแส