นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยมีสาระเป็นการกำหนดให้มีกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เช่น
- กำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร
- คณะกรรมการบริหาร จัดตั้งสำนักงานกำกับการประกอบสถานบันเทิงครบวงจร
- การกำหนดหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนในเรื่องของการอนุญาตให้ประกอบสถานบันเทิงครบวงจร
ที่ประชุม ครม.ถกเข้ม กฤษฎีการะบุไม่ได้เห็นแย้ง
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในที่ประชุม ครม. นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ชี้แจงถึงร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ว่า กฤษฎีกาไม่ได้เห็นแย้งหรือไม่เห็นด้วย เป็นเพียงข้อสังเกตที่ต้องนำเรียน ครม. และจะสามารถนำไปปรับแก้เพิ่มเติมในกฤษฎีกาเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการสร้างแมนเมดเดสติเนชั่น (Man-made Destination) หรือสถานที่ท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้นมา ตามนโยบายที่รัฐบาลแถลงไว้ต่อรัฐสภา
ขณะที่นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เสนอให้ ครม. พิจารณาเห็นชอบตามมติคณะกรรมการและที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบในหลักการต่อร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ…. ของกระทรวงการคลัง เพื่อส่งเสริมและกำกับดูแลเพื่อให้เกิดธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรที่ได้มาตรฐาน เพื่อรองรับการท่องเที่ยวและส่งเสริมการลงทุนในประเทศ อันจะก่อให้เกิดผลดีต่อสังคมในภาพรวมและเป็นการสนับสนุนให้เกิดการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน พร้อมขอให้นำความเห็นและข้อสังเกตของที่ประชุมที่เน้นให้ความสำคัญกับการกำหนดโครงสร้างของกฎหมายให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของนโยบายรัฐบาล การสร้างความชัดเจนในการกำกับดูแลและการป้องกันผลกระทบเชิงลบด้านสังคม เช่น การกำหนดพื้นที่สถานที่ตั้งให้มีความเหมาะสม การกำหนดผู้รักษาการร่วมตามร่างพระราชบัญญัติฯ เพื่อให้เกิดการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
ให้พิจารณา พ.ร.บ.ต้นแบบในประเทศต่างๆ และพิจารณาในทุกมิติ
นายกรัฐมนตรีได้ให้ข้อสังเกตว่า เรื่องนี้ได้ผ่านคณะกรรมการกลั่นกรองของรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม และให้ความเห็นมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งขอให้นำไปพิจารณาในการออก พ.ร.บ. และให้พิจารณาต้นแบบในประเทศต่างๆ ทั่วโลกที่ทำศูนย์กลางท่องเที่ยวและเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในรูปแบบนี้จนประสบผลสำเร็จ ทั้งในมิติสังคมและทุกๆ ด้านที่เกี่ยวข้องมาเป็นข้อศึกษาเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ของประเทศไทยที่ต้องอธิบายให้ประชาชนทราบถึงผลดีที่คณะกรรมการศึกษามาว่ามีผลดีมากกว่า
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้แสดงความคิดเห็นโดยระบุว่า สัดส่วนของคาสิโนมีเพียงแค่ 10% เท่านั้น ที่เหลือก็จะเป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์และศูนย์ท่องเที่ยวและบันเทิงครบวงจรที่จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมาก เช่น การจัดการประชุม การจัดนิทรรศการระดับโลก การจัดคอนเสิร์ตหรือสถานที่ท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น สวนน้ำสวนสนุกในรูปแบบสมัยใหม่ และถือว่าประเทศไทยถึงเวลาที่จะต้องยอมรับความจริงหรือยังว่า วันนี้มีแหล่งการพนันทั้งบนดินและใต้ดินทั้งในประเทศและรอบๆ ประเทศ ซึ่งโครงการนี้จะเน้นไปที่การสร้างเม็ดเงินจากธุรกิจการท่องเที่ยวให้กับประเทศ
ขั้นตอนการพิจารณา – เสนอร่างฯ เข้าสภา
- ที่ประชุม ครม. ได้อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ….. ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้นำความเห็นและข้อสังเกตของคณะกรรมการกลั่นกรองฯ คณะที่ 5 รวมทั้งความเห็นไปประกอบการพิจารณา
- รัฐบาลจะนำเสนอร่าง พ.ร.บ.ฯ ฉบับนี้ ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวาระที่ 1 เพื่อรับหลักการ และวาระ 2 การตั้งแปรญัตติ และตั้งกรรมาธิการเพื่อพิจารณารายมาตราและจะเข้าสู่วาระที่ 3 เพื่อลงมติผ่าน พ.ร.บ.
- จะส่งต่อไปยังสมาชิกวุฒิสภาเพื่อพิจารณาอีกครั้ง
ผลดี “Entertainment Complex” สร้างรายได้-สร้างการจ้างงาน-ส่งเสริมการท่องเที่ยว
กระทรวงการคลังนำเสนอข้อมูลเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ถึงผลประโยชน์ที่จะกลับสู่ประเทศ
กระตุ้นเศรษฐกิจ
- เกิดการลงทุนจริงเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท
- รายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 119,000 ถึง 238,000 ล้านบาท
- ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศเพิ่ม ส่งผลต่อเศรษฐกิจวงกว้าง
ส่งเสริมการท่องเที่ยว
- อาจเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 5% ถึง 10% ต่อปี
- กระตุ้นการใช้จ่ายช่วง low season เพิ่ม 13% ทำให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องทั้งปี
- เพิ่มการใช้จ่าย 66,043 บาท/คน/ทริป จาก 44,000 บาท/คน/ทริป
สร้างงาน
- สร้างการจ้างงานได้อย่างน้อย 9,000 – 15,300 ตำแหน่ง (เทียบเท่ากับการเพิ่มขึ้นของอัตรา การจ้างงานคนไทย 0.03-0.05%)
- พัฒนาศักยภาพแรงงานในประเทศ และการจ้างงานจากธุรกิจต่อเนื่อง
- เพิ่มการจ้างงานโดยอ้อม (เช่น งานด้านการออกแบบ)
- การจ้างงานโดยชักนำ (เช่น การขนส่งสิ่งของ การโดยสาร)
- การจ้างงานเพิ่มเติมในสถานบันเทิงครบวงจร และธุรกิจโดยรอบ รวมไปถึงตำแหน่งระดับบริหารจัดการ
เพิ่มรายได้ให้กับรัฐ
- สร้างรายได้ให้รัฐประมาณ 12,037-39,427 ล้านบาทต่อปี
- รายได้ภาษีจากกิจการอื่น ๆ เช่น โรงแรม 5 ดาว สวนสนุก (8,773 – 35,093 ล้านบาทต่อปี)
- รายได้จากกิจการกาสิโน เช่น ค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ภาษีการเล่นพนัน ขั้นต่ำ 3,264 ล้านบาทต่อปี
- ยังมีรายได้จากค่าธรรมเนียมการเข้ากาสิโนอีก ขั้นต่ำ 3,700 ล้านบาทต่อปี
- สามารถนำรายได้ไปใช้พัฒนาประเทศ การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานประเทศ ระบบดูแลสังคม ระบบการศึกษา และการสร้างสาธารณประโยชน์ต่างๆ