นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รับทราบปัญหาน้ำท่วมในหลายจังหวัดของพื้นที่ภาคใต้ ที่มีสาเหตุมาจากฝนตกหนักต่อเนื่องและมีปริมาณน้ำมาก ได้สั่งการให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย รมช.มหาดไทย และรมช.กลาโหม ลงพื้นที่ โดยจะอยู่หน้างาน เพื่อแก้ไขและให้ทำหน้าที่ต่อ
โดยขอให้ทุกภาคส่วนทำงานร่วมกัน และสั่งการให้ ศอ.บต. ประสานงานกับ ศปช.ส่วนกลาง เร่งรัดสั่งการเรื่องการประกอบอาหารและโรงครัวพระราชทาน อุปกรณ์ต่างๆ พร้อมให้อพยพประชาชนจากพื้นที่น้ำท่วมสูงและจัดเตรียมหน่วยแพทย์ ยารักษาโรค เพื่อป้องกันโรคที่มากับน้ำท่วมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และให้ดูเรื่องมาตรการเยียวยาควบคู่กันไป เพื่อให้ประชาชนไม่ต้องรอการเยียวยานาน
(29 พ.ย. 67) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้แสดงความห่วงใยถึงประชาชนทุกจังหวัด
ในพื้นที่ภาคใต้ที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ได้แก่ จ.ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา โดยได้มอบหมายให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นางสาวธีรรัตน์ สําเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ จ.นราธิวาส ติดตามสถานการณ์และอำนวยการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
“แม้ว่าขณะนี้นายกรัฐมนตรีมีภารกิจ ครม.สัญจรที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่ได้ฝากความห่วงใยผ่าน
รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ดูแลประชาชนทันที เนื่องจากขณะนี้ในพื้นที่
4 จังหวัดเกิดน้ำท่วมหนักในหลายจุด อีกทั้งในช่วง 2 วันนี้กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่ายังมีแนวโน้มที่จะมีฝนตกหนักเข้ามาเติมในพื้นที่ จึงต้องสั่งการให้ระดมความช่วยเหลือจากนอกพื้นที่เข้ามาเพิ่มเติมโดยต้องมีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ”
นอกจากนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังได้มอบหมายให้ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ และสั่งการให้ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จัดตั้งศูนย์ประสานงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีบทบาทเป็น ศปช.ส่วนหน้าภาคใต้ เพื่อเป็นแกนกลางติดตามสถานการณ์และประสานความช่วยเหลือเข้าไปยังพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
“ขณะนี้ทุกภาคส่วนได้ระดมความช่วยเหลือทุกรูปแบบเข้าพื้นที่ เบื้องต้นกองทัพบกได้สั่งการกองทัพภาคที่ 4 พร้อมจิตอาสาพระราชทานลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ขณะที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้จัดสรรเรือ รถบรรทุกขนย้ายผู้ประสบภัย เครื่องสูบน้ำ พร้อมเครื่องมือ 1,264 หน่วยพร้อมเฮลิคอปเตอร์ KA-32 เข้าช่วยเหลือประชาชน ระดมเครื่องจักรกลสาธารณภัยจากพื้นที่ที่ไม่มีสถานการณ์ เช่น ปภ.เขต 2 สุพรรณบุรี
เขต 3 ปราจีนบุรี เขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ และเขต 8 กำแพงเพชร เข้าสนับสนุนการปฏิบัติงานช่วยชาวใต้จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย”
“อนุทิน” พร้อม “ซาบีดา-ธีรรัตน์” ติดตามสถานการณ์และการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยนราธิวาส กำชับผู้ว่าระดมสรรพกำลังดูแลความปลอดภัยประชาชน มีอาหารเพียงพอจนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ
(29 พ.ย. 67) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย พร้อมด้วย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่ภาคใต้และการช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยจุดแรกลงพื้นที่ จ.นราธิวาส มีการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำภาพรวมของ 4 จังหวัด (นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา) ณ ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส
นายอนุทิน กล่าวว่า ได้เร่งประสานงานกับกรมบัญชีกลางเพื่อขยายวงเงินทดรองราชการในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดจากจังหวัดละ 20 ล้านบาท เป็น 50 ล้านบาทโดยเร็ว สั่งการให้อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทา
สาธารณภัย (ปภ.) เร่งสนับสนุนสรรพกำลัง อุปกรณ์ เครื่องไม้เครื่องมือตามที่จังหวัดร้องขอ โดยเฉพาะเรื่องเรือพาหนะ เป็นสิ่งที่มีความจำเป็นที่ทุกจังหวัดกำลังต้องการขณะนี้ และให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ใช้สรรพกำลังและทรัพยากรที่มีกระจายเข้าไปในพื้นที่โดยเร็วที่สุดเต็มศักยภาพ
“ขอให้ดูแลเรื่องการประกอบอาหารที่สะอาด มีคุณภาพ และแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนครบทั้ง 3 มื้อ และเพียงพอในการดำรงชีพ ควบคู่การจัดเวรยามลาดตระเวนดูแลความปลอดภัยบ้านเรือนชาวบ้าน และบำรุงขวัญกำลังใจพี่น้องผู้ประสบภัย ด้วยความมุ่งมั่นทุ่มเทอย่างเต็มที่ เตรียมอุปกรณ์เครื่องจักรกลสาธารณภัย พาหนะ
รถยกสูง ในการเข้าพื้นที่อพยพและบริการประชาชน ให้ความสำคัญสูงสุดกับชีวิตและความปลอดภัย ช่วยกันดูแลทั้งด้านคุณภาพชีวิต สุขภาพอนามัย ห้องน้ำ อาหาร ที่ศูนย์พักพิงจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทยจะทำงานร่วมกับพื้นที่ และติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง และพร้อมสนับสนุนภารกิจของทุกส่วน และขอให้ข้าราชการ อาสาสมัคร ทุกท่านทำงานด้วยความปลอดภัย”
มท.1 เยี่ยมและให้กำลังใจผู้ประสบภัย ศูนย์พักพิง อ.ระแงะ พร้อมมอบถุงยังชีพเครื่องอุปโภคบริโภค
ร่วมประกอบอาหารโรงครัวพระราชทานแจกจ่ายพี่น้องประชาชน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย (มท.1) พร้อมด้วย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่เยี่ยมและให้กำลังใจผู้ประสบภัย ณ ศูนย์พักพิงที่ว่าการ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ได้พบปะพูดคุยกับผู้ประสบภัยฯ กลุ่มเปราะบาง และผู้สูงอายุ ภายในศูนย์พักพิง พร้อมมอบถุงยังชีพเครื่องอุปโภคบริโภค และมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุเหตุการณ์อุทกภัย ก่อนจะร่วมประกอบอาหารโรงครัวพระราชทาน เมนู “ผัดกระเพราไก่” เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัย พร้อมทั้งร่วมรับประทานอาหารกล่องกับผู้ประสบภัยอย่างเป็นกันเอง
นายอนุทิน กล่าวว่า สิ่งสำคัญ คือ ขวัญและกำลังใจของพี่น้องประชาชน เราทุกคนพยายามเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่มาดูแลให้พี่น้องทุกคนได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด และจะได้เร่งสำรวจเพื่อนำเสนอ ครม. จัดสรรงบประมาณรายครัวเรือนเร่งด่วน ซึ่งปีนี้ให้การช่วยเหลือในอัตราสูงสุดครัวเรือนละ 9,000 บาท เพื่อบรรเทาในเบื้องต้น และเรื่องอาหารก็จะต้องไม่ให้ขาด มีครบทุก 3 มื้อ อย่างมีคุณภาพ
“อนุทิน” นำคณะบินต่อสงขลาเกาะติดการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เผยล่าสุดกรมบัญชีกลางขยายวงเงิน
ทดรองราชการ 6 จังหวัดประกาศภัยพิบัติอีก 50 ล้านบาท ให้ผู้ว่าใช้จ่ายงบประมาณช่วยเหลือประชาชน
ทันต่อสถานการณ์
นายอนุทิน และคณะ เดินทางไปยังตลาดสดเทศบาลตำบลนาทวี และติดตามสถานการณ์น้ำในคลอง
นาทวี และมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ประสบภัย ได้เน้นย้ำกับผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ให้ดูแลประชาชน
ในศูนย์พักพิง ต้องมีอาหารครบทุกมื้อ ถูกสุขลักษณะ มีโรงครัวพระราชทาน โรงครัวของจังหวัด โรงครัวของกาชาด และขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดูแลเรื่องอาหารการกิน รถผลิตน้ำดื่มของ ปภ. รวมถึงมีหน่วยงาน
ด้านสาธารณสุขดูแลด้านสุขภาพกายและใจ
ขณะนี้กรมบัญชีกลางได้อนุมัติขยายวงเงินทดรองราชการแก่ จ.สงขลา และจังหวัดที่ได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ กรณีอุทกภัยและวาตภัย ประกอบด้วย จ.นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สุราษฎรธานีและนครศรีธรรมราช รวม 6 จังหวัด อีกจังหวัดละ 50 ล้านบาท จาก 20 ล้านบาท รวมเป็น 70 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัด สามารถใช้งบประมาณช่วยเหลือประชาชนได้ทันต่อกับสถานการณ์ ภายหลังสถานการณ์คลี่คลาย ทาง ปภ.
จะร่วมกับจังหวัดสงขลาเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนตามระเบียบต่อไป
รองนายกฯ “ภูมิธรรม” สั่งการ ศปช. เร่งระดมกำลัง บูรณาการทำงานร่วมกัน ช่วยเหลืออุทกภัยภาคใต้ 4 จังหวัด
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เร่งช่วยเหลือประชาชนชาวใต้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เนื่องจากฝนตกหนักในพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา ดังนี้
- ให้กรมประชาสัมพันธ์ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
กรมทรัพยากรธรณี แจ้งเตือนประชาชนในระดับพื้นที่ - ให้หน่วยงานของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ และ กระทรวงคมนาคม เตรียมเครื่องจักร/เครื่องมือ เพื่อเตรียมพร้อม ทั้งพื้นที่ภาคใต้ตอนบนตอนล่าง
- ให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ลดการระบายน้ำของเขื่อนบางลาง โดยได้หยุดการระบายน้ำตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 เพื่อลดผลกระทบในพื้นที่ท้ายน้ำ
- จากการหารือกับจังหวัดที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ ทางจังหวัดมีความต้องการเรือท้องแบน เจ็ตสกี
รถยกสูง และอาหารแห้ง ซึ่งเบื้องต้นได้ให้ทุกส่วนราชการเร่งสนับสนุนการช่วยเหลือแล้ว - ให้กระทรวงกลาโหม ระดมเรือท้องแบน และรถยกสูง เข้าพื้นที่เพื่อเคลื่อนย้ายประชาชนออกจากพื้นที่ไปที่ศูนย์พักพิง
- ให้กรมเจ้าท่าจัดเรือท้องแบน เจ็ตสกี และเรืออื่น ๆ สนับสนุนพื้นที่ 4 จังหวัด
- ให้กรมชลประทาน ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ/เครื่องผลักดัน และรถยกสูง สนับสนุนเครื่องจักร/เครื่องมือเข้าช่วยเหลือในพื้นที่
- ให้รองแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นหน่วยประสานการปฏิบัติในฐานะผู้แทนกระทรวงกลาโหม เพื่อบูรณาการกับทุกภาคส่วนราชการ
- ให้คณะทำงานภายใต้ ศปช. ประชุมติดตามสถานการณ์ร่วมกับผู้ว่าราชการ 4 จังหวัด ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อมอบหมายและสนับสนุนการช่วยเหลือจนกว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติ
- ให้ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุขติดตามข้อมูลการป้องกันโรงพยาบาล เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับผู้ป่วย
- ให้เร่งสำรวจพื้นที่ที่เกิดดินถล่ม เพื่อเร่งแก้ไขให้ราษฎรสามารถสัญจรได้อย่างปลอดภัย และมอบหมายให้ตรวจสอบเส้นทางรถไฟที่อาจจะได้รับผลกระทบจากดินถล่ม
- รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม จึงมอบหมายให้ทุกส่วนราชการระดมสรรพกำลังเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาในพื้นที่ให้กลับสู่ปกติโดยเร็ว
พม. เร่งช่วยกลุ่มเปราะบาง ประสบภัยน้ำท่วมใต้
นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) กล่าวว่า ได้สั่งการไปยัง พม.จังหวัดที่ประสบภัย ว่า ให้เร่งช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และคนพิการ
ในการดูแลของ พม. เข้าสู่ศูนย์พักพิงต่างๆ รวมถึงความต้องการความช่วยเหลือเฉพาะหน้า ได้แก่ นมผงสำหรับเด็กเล็ก ผ้าอ้อมสำเร็จรูปสำหรับผู้ใหญ่ สำหรับเด็ก ของใช้ส่วนตัวต่างๆ สำหรับผู้หญิง หากพี่น้องกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ประสบภัยต้องการขอความช่วยเหลือเร่งด่วน สามารถติดต่อ ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.)
ผ่าน สายด่วน พม. โทร. 1300 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง