“อนุทิน” ลงพื้นที่น้ำท่วมใต้ ช่วยเหลือประชาชน กำชับ ปภ. ระดมสรรพกำลังเครื่องจักร เจ้าหน้าที่พร้อมสนับสนุนบรรเทาอุทกภัยภาคใต้
จากสถานการณ์ฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ทำให้หลายพื้นที่มีสถานการณ์อุทกภัย และอีกหลายพื้นที่มีความเสี่ยงทั้งอุทกภัยและดินโคลนถล่ม กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์อุทกภัย วันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 เวลา 06.00 น. ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ จ.นครศรีธรรมราช พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส จำนวน 68 อำเภอ 452 ตำบล 2,831 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 240,007 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 4 ราย (จ.ปัตตานี 2 ราย จ.สงขลา 2 ราย)
ปริมาณฝนสะสมสูงสุด อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช 200.5 มม. อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส 288.2 มม. อ.เทพา จ.สงขลา 248.5 มม. ส่งผลให้ปริมาณน้ำบริเวณคลองท่าดี ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา แม่น้ำปัตตานี มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น
กรมอุตุนิยมวิทยา (29 พ.ย. 67) เวลา 05.00 น. เตือนภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมาก บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง สตูล และ
ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก เตือน ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้และคลื่นลมแรงบริเวณ
อ่าวไทย ฉบับที่ 7 (ระหว่างวันที่ 29 – 30 พฤศจิกายน 2567) มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมบริเวณอ่าวไทยแลพภาคใต้ ทำให้ จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส
เกิดฝนตกหนักถึงหนักมาก ฝนตกสะสม ลมกระโชกแรง ซึ่งอาจทำให้พื้นที่เสี่ยงภัยเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก
น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่มในพื้นที่ลาดเชิงเขา
ด้านการเตรียมการรับมือสถานการณ์ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และ
ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ (28 พ.ย. 67 เวลา 22.50 น.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ส่งข้อความสั้น (SMS) แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงน้ำล้นตลิ่งแจ้งเตือนน้ำล้นตลิ่งคลองต้นเลียบ ต.โมคลาน อ.ท่าศาลา
แม่น้ำตาปี ต.ยางค้อม อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช ขอให้ประชาชนเตรียมรับสถานการณ์ ขนย้ายสิ่งของและอพยพกลุ่มเปราะบางไปที่ยังปลอดภัย
นอกจากนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยังได้กำชับ ปภ. ระดมทรัพยากรทั้งเครื่องจักรสาธารณภัยและกำลังคนให้พร้อมสนับสนุนเหตุอุทกภัยภาคใต้ ล่าสุด ปภ.
เขตต่าง ๆ ได้สนับสนุนเครื่องจักรกลสาธารณภัย พร้อมเจ้าหน้าที่เข้าไปยังพื้นที่แล้ว
ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 2 สุพรรณบุรี ได้ส่งรถบรรทุกเรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ จำนวน 15 ลำ ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดยะลา
ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 3 ปราจีนบุรี ได้ส่งเครื่องจักรกลสาธารณภัยพร้อมเจ้าหน้าที่ ประกอบด้วย รถปฏิบัติการบรรเทาอุทกภัย จำนวน 2 คัน รถบรรทุกลากเรือยนต์กู้ภัย พร้อมอุปกรณ์ จำนวน
2 คัน เรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ จำนวน 10 ลำ และรถบรรทุกติดตั้งเครื่องสูบน้ำระยะไกล จำนวน 2 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่ จำนวน 9 นาย เข้าปฏิบัติงานให้การช่วยเหลือพื้นที่จังหวัดปัตตานี และจังหวัดยะลา
ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ ได้ส่งรถบรรทุกขนาดเล็ก จำนวน 2 คัน รถบรรทุกติดตั้งเครื่องสูบน้ำระยะไกล จำนวน 2 คัน รถปฏิบัติการบรรเทาอุทกภัยพร้อมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 2 คัน รถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย จำนวน 1 คัน รถบรรทุกขนาดใหญ่ 6 ล้อ 6 ตัน จำนวน 1 คัน รถบรรทุกเรือยนต์กู้ภัย จำนวน 1 คัน เรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ จำนวน 10 ลำ พร้อมเจ้าหน้าที่ 12 นาย เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยภาคใต้ในเขตพื้นที่จังหวัดรับผิดชอบของศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 สงขลา ล่าสุด ปภ. เขตต่างๆ ได้สนับสนุนเครื่องจักรกลสาธารณภัย พร้อมเจ้าหน้าที่เข้าไปยังพื้นที่แล้ว
วันนี้ (29 พ.ย.67) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดเดินทางลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยและให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้