กรณีน้องพลอย นักเรียนโรงเรียนสตรีจังหวัดระนอง ที่จะไปร่วมแข่งขันโครงการวิทยาศาสตร์ระดับโลก ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่มีอุปสรรค คือการขอออกนอกราชอาณาจักร เนื่องจากน้องพลอยเป็นบุคคลไร้สัญชาติ ที่การพิจารณาให้ออกนอกราชอาณาจักรเป็นอำนาจหน้าที่ของ สตม. และแม้จะได้รับอนุญาตให้ออกนอกประเทศไทยก็ยังมีปัญหาสำคัญ เรื่องการขอวีซ่าจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งโดยปกติทางการสหรัฐจะไม่ออกวีซ่า ให้แก่บุคคลไร้สัญชาติ
ดังนั้น ทางกรมการปกครองได้ดำเนินการประสานงานเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวกับทาง สตม. แล้ว ส่วนเรื่องขอมีสัญชาติไทย กรมการปกครองตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่า การขอมีสัญชาติไทยของน้องพลอยสามารถกระทำได้ เพราะอยู่ในเงื่อนไขจะขอมีสัญชาติไทยได้ตามมาตรา 7 ทวิ วรรคสอง พ.ร.บ.สัญชาติ พ.ศ. 2508 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 และตามมติ ครม.วันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2559 ในกลุ่มเด็กนักเรียนที่เกิดในประเทศไทยโดยมีบิดามารดาเป็นคนต่างด้าวอื่นที่มิใช่ชนกลุ่มน้อย และยังเรียนไม่จบปริญญาตรี และอยู่ในเงื่อนไขของการเป็นตัวแทนของส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐไปแข่งขันหรือประกวดผลงานระดับนานาชาติหรือทำประโยชน์แก่ประเทศด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ศิลปวัฒนธรรม การศึกษา กีฬา หรือสาขาอื่น ๆ และจะต้องอยู่อาศัยในประเทศไทยเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 10 ปี โดยมีขั้นตอนที่จะต้องยื่นคำร้องแสดงเหตุจำเป็นที่จะต้องมีสัญชาติไทย เพื่อให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หรือผู้ที่รัฐมนตรีมอบอำนาจ พิจารณาก่อน และเมื่อได้รับการพิจารณาว่า เป็นผู้มีเหตุจำเป็นแล้ว จึงนำหนังสือแจ้งผลการพิจารณาไปยื่นขอมีสัญชาติไทยต่อไป
ปัจจุบันน้องพลอยได้มายื่นคำร้อง ขอให้พิจารณาเหตุจำเป็นการมีสัญชาติไทยต่อนายอำเภอเมืองระนองแล้ว และจังหวัดได้ส่งเรื่องมายังกรมการปกครอง ซึ่งกรมการปกครองในฐานะผู้ได้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้พิจารณาเห็นชอบเหตุจำเป็นที่น้องพลอยจะยื่นคำขอมีสัญชาติไทยได้ และได้แจ้งกลับไปที่จังหวัดและน้องพลอยเพื่อให้ไปยื่นคำร้องขอมีสัญชาติไทยต่อนายอำเภอท้องที่ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอจะเร่งดำเนินการให้โดยเร็วที่สุด และได้รับการประสานจากผู้ว่าราชการจังหวัดระนองว่า จะช่วยอำนวยความสะดวกในการพาน้องพลอยไปทำหนังสือเดินทางเพื่อจะได้ยื่นขอวีซ่าต่อสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา และสามารถเดินทางได้ทันตามกำหนด
