เรียกได้ว่าสะเทือนวงการบอลไทย จากกรณีที่ ‘อับดุลกอดีรี ฮามิต’ ศูนย์หน้าลูกครึ่งไทย-กาน่า ของสโมสรปราจีนบุรี ซิตี้ ในไทยลีก 3 ได้โพสต์เฟซบุ๊กเหตุโดนผู้ตัดสินเหยียดสีผิว โดยระบุว่า ‘ผมพูดไทยได้นะครับจาร ด่าซะชัดเลย #ไอดำมึงไหวก็ลุกขึ้นมาเล่นต่อไม่ต้องนอนหรือมึงจะเอาแพทย์ *คำพูดจากผู้ตัดสินที่1 ผมพูดจากใจนะ ใครจะเรียกไรผมดำผมไม่เคยโกรธอะไรเลย แต่นี่เป็นผู้ตัดสิน ควรมีคำพูดที่ดีกว่านี่นะครับ เรียกผมไอ มืดก็ได้ 😅’
ขณะที่สโมสรปราจีนบุรี ซิตี้ ได้ออกมาโพสต์ข้อความต่อต้านการเหยียดผิว ผ่านเพจเฟซบุ๊ก ‘Prachinburi City Football Club’ โดยระบุว่า
‘พวกเราขอต่อต้าน 🤍🖤 การเหยียดผิว การดูถูก ดูหมิ่น ในเชื้อชาติ ศาสนา หรือชาติพันธุ์ ไม่ควรเกิดขึ้นกับ “วงการฟุตบอลไทย” ไม่ใช่ครั้งแรกของการโดนเหยียดผิวของ “อับดุล” คนไทย 💯 ที่มีสัญชาติไทยโดยกำเนิด แต่ครั้งนี้ดูเหมือนจะร้ายแรงกว่าที่เกิดขึ้นจากปากของ “ผู้ตัดสิน” จริงอยู่มนุษย์ทุกคนล้วนมีอารมณ์แต่ในหน้าที่พิเศษบุคคลนั้นจำเป็นต้อง “มีการควบคุมอารมณ์และวุฒิภาวะที่ดีกว่าบุคคลทั่วไป”
ไม่ว่าเรื่อง “การเหยียดผิว” นี้จะผิดหรือไม่ผิด? จะจริงหรือไม่จริง? จะเป็นเรื่องปกติที่ทำได้หรือเป็นเรื่องร้ายแรง? แต่พวกเรา “ปราจีนบุรี ซิตี้” ขอแสดงจุดยืน…ไม่ว่านักเตะผิวสีจะเป็นนักเตะของเราหรือไม่? หรือสัญชาติอะไร? เราก็พร้อมจะปกป้องพวกเขาเฉกเช่นเดียวกันกับคนของเราเช่นกัน’
ซึ่งทำให้เกิดกระแสการวิพากย์วิจารณ์บนโลกโซเชียลถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของกรรมการผู้ตัดสิน รวมถึงแห่ให้กำลังใจนักเตะอย่างล้นหลาม
ล่าสุด! สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ไม่อยู่นิ่ง เพราะถือเป็นเรื่องฉาวและร้ายแรงในวงการฟุตบอลไทย
‘บิ๊กอ๊อด’ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง นายกสมาคมฯ ที่อยู่ระหว่างการประชุมสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) ณ กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ได้สั่งการด่วนให้ระงับการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินคนดังกล่าวทันทีทุกรายการแข่งขัน เพื่อดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีการเหยียดผิวในการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก 3 ที่เกิดขึ้น เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและในวงการฟุตบอลนานาชาติเห็นว่าเป็นเรื่องร้ายแรง และไม่ควรอยู่ในกีฬาฟุตบอล โดยทางสมาคมฯ พร้อมดำเนินการขั้นเด็ดขาดหากพบว่ามีการเหยียดผิวจริงในกรณีดังกล่าว
ขณะที่ ฝ่ายจัดการแข่งขันไทยลีก ได้ดำเนินการสอบถามข้อเท็จจริงไปยัง สโมสรปราจีนบุรี ซิตี้ และนักกีฬา เพื่อนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการสอบสวนของคณะพิจารณาวินัย มารยาท ที่มี ‘บิ๊กนวย’ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน เป็นประธาน เพื่อพิจารณาซึ่งหากพบว่ามีความผิดจริงก็จะมีบทลงโทษอย่างเด็ดขาดต่อไป
