เนื่องจาก ในทุกรอบสัปดาห์ มีการรับแจ้งความออนไลน์คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อทำงานหารายได้พิเศษ เป็นจำนวนมาก และอยู่ในลำดับที่ 2 ของทุกสัปดาห์
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. เป็นห่วงพี่น้องประชาชน ที่อาจจะตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพโดยอาศัยความต้องการมีรายได้พิเศษของประชาชนเป็นกลโกงในการหลอกลวง จึงมอบหมายให้ พล.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. หัวหน้าคณะทำงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันต้านภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วยคณะทำงาน แถลงข่าวเตือนภัยว่า
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (28 พฤษภาคม – 3 มิถุนายน 2566) มีสถิติการรับแจ้งความคดีออนไลน์มากที่สุดยังเป็นคดีเดิม ๆ 5 อันดับ ได้แก่
1) คดีหลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการ
2) คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อทำงานหารายได้พิเศษ
3) คดีหลอกลวงให้กู้เงิน
4) คดีข่มขู่ทางทางโทรศัพท์ให้เกิดความกลัวแล้วหลอกให้โอนเงิน (Call Center) และ
5) คดีหลอกลวงให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์
สำหรับคดีออนไลน์ที่มิจฉาชีพนำมาหลอกลวงซ้ำเติมประชาชนในช่วงนี้ คือ คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อทำงานหารายได้พิเศษ โดยมีรูปแบบการหลอกลวงมาก่อนหน้านี้ เช่น
– >> หลอกให้ทำงานหารายได้พิเศษในการสต๊อกสินค้าให้ศูนย์กระจายสินค้าของ Shopee Lazada โดยให้ผู้เสียหายกดไลก์ กดแชร์สินค้าที่กำหนด และโอนเงินค่าสินค้าเพื่อเป็นการสต๊อกสินค้า โดยอ้างว่าผู้เสียหายจะได้ค่าคอมมิชชัน ของราคาสินค้า
– >> หลอกให้ทำงานกดสั่งสินค้าใส่ตะกร้าใน Shopee จากนั้นคนร้ายให้บันทึกหน้าจอส่งให้ดูพร้อมโอนเงินตามมูลค่าสินค้านั้น ๆ เข้าบัญชีคนร้าย โดยอ้างว่าผู้เสียหายจะได้ค่าคอมมิชชัน
– >> หลอกลวงให้ทำงานหารายได้พิเศษจากการขายสินค้าใน Wish Shop โดยให้เลือกสินค้ามาขาย ตามเงื่อนไขและจำนวนที่จะทำให้ผ่านภารกิจ และต้องเติมเงินก่อนขายทุกครั้ง โดยอ้างว่าผู้เสียหายจะได้กำไรจากการขายสินค้า
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายกลวิธีที่คนร้ายหลอกลวง ชักชวนหาได้ได้เสริม แต่ต้องให้โอนเงินให้ก่อน อ้างเป็นค่าประกัน ค่าสัญญา ค่าธรรมเนียม ฯลฯ หรือหลอกให้ลงทุนก่อน หลอกเร่งรัดให้โอนเงินให้ ฯลฯ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ห่วงใยพี่น้องประชาชน ย้ำเตือนภัย “ไม่หลง ไม่เชื่อ ไม่โอน”
โดยให้เตือนใจไว้เสมอว่า ทำงานง่าย รายได้ดี ไม่มีอยู่จริง!!
ที่มา : FB สำนักงานตำรวจแห่งชาติ