พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงเกี่ยวกับข้อสงสัยในการทำคดีทุนจีนสีเทาในโซเชียลมีเดียว่า กรณีที่ตรวจปัสสาวะเหลือ 6 คน นั้นไม่เป็นความจริง โดยได้มีการตรวจสารเสพติดเบื้องต้นเป็นผลบวก 104 คน และโรงพยาบาลธัญลักษณ์ได้ตรวจยืนยันผลมา 77 ราย รับสารภาพ 66 รายส่งฟ้องศาลแล้ว ปฏิเสธ 11 ราย โดยมีหนึ่งรายได้ประกันตัวและหลบหนี 1 ซึ่งทั้งหมด 76 รายอยู่ระหว่างการควบคุมตัวของทางการ
กรณีการแต่งตั้ง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นหัวหน้าคณะทำงานสืบสวนสอบสวน นั้นเนื่องจากมองว่าเป็นผู้ที่ทราบปัญหาในเชิงลึกมากที่สุด ได้เข้าไปตรวจค้นจับกุมด้วยตนเองตั้งแต่ต้น และเห็นว่าคดีนี้เป็นที่น่าสนใจ อาจจะมีความสำคัญเกี่ยวเนื่องกับคดีต่างๆ และการมอบหมายให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้ากำกับดูแลงานสืบสวนสอบสวนด้วย ก็ถือว่ามีอำนาจเต็มแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยได้รับรายงานความคืบหน้าจากทั้งสองท่านอยู่ตลอด
อย่างไรก็ตาม จะให้ทาง ผบ.ชน.เพิ่มการชี้แจงความคืบหน้ากับสื่อมวลชนมากขึ้น และเพื่อไม่ให้เกิดความกังขา หรือเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจคลาดเคลื่อน ตนจะลงมากำกับดูแลคดีนี้อย่างใกล้ชิดด้วยตนเอง และขอยืนยันว่าทำงานอย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่คดีมวยล้มต้มคนดู โดยทางนายกรัฐมนตรียังได้กำชับมาว่าให้ทำคดีนี้อย่างรวดเร็ว ตรงไปตรงมา และไม่มีการเกรงกลัวอิทธิพลใด ๆ
ส่วนในทางคดีนั้นเมื่อพิจารณาจากพยานหลักฐานแล้ว ยังเป็นคดีในราชอาณาจักรที่ตำรวจเป็นผู้ดำเนินการ แต่ก็ได้ประสานงานและหารือกับสำนักงานอัยการคดียาเสพติดแล้ว ขณะที่การแจ้งข้อกล่าวหาเรื่องการฟอกเงินนั้นจะมีแน่นอน ต้องขอระยะเวลาในการรวบรวมข้อมูลก่อน ซึ่งยืนยันว่าการแจ้งข้อกล่าวหาจะไม่ล่าช้า และได้สอบปากคำพยานไปแล้วจำนวนมาก โดยเมื่อ ปปส. ยึดทรัพย์แล้ว นายตู้ห่าวจะต้องมาชี้แจงที่มาของทรัพย์สิน ส่วน ปปง. ก็ได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินควบคู่กัน