พลตำรวจโท ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมและการรักษาความปลอดภัยภายในประเทศ ช่วงการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเปคว่า ขณะนี้ยังไม่พบบุคคลที่มีลักษณะต้องห้าม ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง โดยเฉพาะบุคคลที่เป็นภัยความมั่นคงของประเทศคู่ขัดแย้งที่เข้าร่วมประชุมเอเปค หากพบข้อมูลว่า บุคคลที่เป็นภัยต่อความมั่นคงในประเทศคู่ขัดแย้งจะเดินทางเข้าประเทศ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจะประสานข้อมูลอาชญากรของประเทศดังกล่าว เพื่อติดตามความเคลื่อนไหว และสามารถระงับการเดินทางได้ทันที แม้ว่าจะเป็นช่วงเดียวกับเทศกาลท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศจำนวนมาก ก็ยังคงต้องทำตามมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
ส่วนกรณีที่โซเชียลมีการเผยแพร่ภาพนักท่องเที่ยวหนาแน่นบริเวณจุดตรวจเข้าเมืองภายในท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมินั้น เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงรุ่งเช้า และตั้งแต่ 14.00 น. ที่มีสายการบินและนักท่องเที่ยวเข้ามาพร้อมกัน จำนวนมาก แต่ข้อเท็จจริงคือ หากมีปริมาณนักท่องเที่ยวหนาแน่น สตม.จะจัดเจ้าหน้าที่ตประจำเคาน์เตอร์ทุกจุด และสามารถระบายนักท่องเที่ยวได้หมดภายในครึ่งชั่วโมง โดยยังต้องรักษามาตรฐานความปลอดภัยและประสิทธิภาพได้ตามหลักสากล
สำหรับช่วงที่ผ่านมา สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้ปฏิเสธคนเข้าเมืองแล้วกว่า 2,000 คน เนื่องจากเข้าลักษณะบุคคลต้องห้าม หรืออยู่เกินกฎหมายกำหนด ซึ่ง สตม.ได้ติดตามและมีข้อมูลนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในไทยทั้งหมด หากเกิดเหตุต้องสงสัย สามารถเข้าดำเนินคดี สืบสวน และผลักดันออกนอกประเทศตามกฎหมายได้ทันที