นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2563 ได้ออกคำสั่งเรื่อง ระงับการเดินรถโดยสารสารประจำทางในเส้นทางหมวด 2 และหมวด 3ในเส้นทางที่มีต้นทางหรือปลายทางในเขตพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา จนกว่าจะมีสถานการณ์เปลี่ยนแปลงเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (COVID-19)ที่มีแนวโน้มรุนแรงเพิ่มขึ้น โดยคำสั่งดังกล่าว มีผลตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2563 เป็นต้นไป
ที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง เมื่อวันที่ 26 มี.ค.63 ได้อนุมัติในหลักการให้อธิบดีกรมการส่งทางบก ในฐานะนายทะเบียนกลาง มีอำนาจในการออกคำสั่งให้ผู้ประกอบการขนส่ง ในเส้นทางรถโดยสารประจำทางหมวด 1 หมวด 4 กรุงเทพมหานคร และหมวด 2 หมวด 3 และรถโดยสารไม่ประจำทางภายในเขตกรุงเทพมหานคร และระหว่างจังหวัด จัดการเดินรถตามเงื่อนไขที่อธิบดีกำหนดหรือระงับการเดินรถหรือจำกัดพื้นที่การเดินรถในเส้นทางหรือพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 เป็นการชั่วคราว
ล่าสุด ‼️ นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งที่ 7/2563 ลงวันที่ 8 เมษายน 63 แต่งตั้ง นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการคมนาคม และการขนส่งทั่วราชอาณาจักร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก โดยความเห็นชอบของปลัดกระทรวงคมนาคม จึงมีคำสั่ง ให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งประจำทางด้วยรถ ที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสารระงับการเดินรถในเส้นทางหมวด 2 และหมวด 3 ที่มีต้นทางหรือปลายทางในเขตพื้นที่ จ.นครราชสีมา เป็นการชั่วคราว
การปิดเส้นทางเดินรถเข้าออกระหว่างจังหวัดนั้น เป็นเรื่องที่แต่ละจังหวัดส่งความต้องการในการปิดเส้นทาง เพื่อป้องกันการระบาด COVID -19 เข้ามา ที่กรมการขนส่งทางบก หลังจากนั้น กรมฯจะรายงานให้นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคมในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการคมนาคม-การขนส่งทั่วราชอาณาจักรพิจารณาอนุมัติ หลังจากนั้นจะออกประกาศ ขณะนี้ยังมีจังหวัดเชียงรายอีก 1 จังหวัดที่ได้มีการเสนอขอ ปิดเส้นทางเดินทางก็จังหวัด เข้ามาให้กรมการขนส่งทางบกพิจารณาด้วย
สำหรับภาพรวมการดำเนินการของกรมการขนส่งทางบก เพื่อรองรับ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯนั้น ขนส่งฯได้ออกคำสั่งระงับการเดินรถโดยสารสาธารณะเป็นการชั่วคราวในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตพื้นที่ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดออกคำสั่งระงับการเดินรถ รวม 15 จังหวัด ประกอบด้วย หมวด 2 ระงับ 35 เส้นทาง จากทั้งหมด 209 เส้นทาง หรือคิดเป็น 16.75% ได้แก่
- พังงา 3 เส้นทาง
- ภูเก็ต 2 เส้นทาง
- กระบี่ 3 เส้นทาง
- สตูล 2 เส้นทาง
- ยะลา 1 เส้นทาง
- พัทลุง 1 เส้นทาง
- สงขลา 4 เส้นทาง
- นราธิวาส 2 เส้นทาง
- บึงกาฬ 2 เส้นทาง
- นครราชสีมา 2 เส้นทาง
- นครพนม 6 เส้นทาง
- ร้อยเอ็ด 4 เส้นทาง
- ตราด 3 เส้นทาง
ขณะที่หมวด 3 ระงับ 185 เส้นทางจากทั้งหมด 634 เส้นทางหรือคิดเป็น 29.18% ได้แก่
- พังงา 3 เส้นทาง
- ภูเก็ต 27 เส้นทาง
- กระบี่ 10 เส้นทาง
- ตรัง 7 เส้นทาง
- สตูล 1 เส้นทาง
- ยะลา 13 เส้นทาง
- พัทลุง 4 เส้นทาง
- สงขลา 27 เส้นทาง
- ปัตตานี 7 เส้นทาง
- นราธิวาส 2 เส้นทาง
- บึงกาฬ 10 เส้นทาง
- นครราชสีมา 31 เส้นทาง
- นครพนม 20 เส้นทาง
- ร้อยเอ็ด 17 เส้นทาง
- ตราด 6 เส้นทาง
- สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียนรถโดยสารสาธารณะ 1584