Font Resizer

A Decrease font size. A Reset font size. A Increase font size.

484 views

รัฐบาลห่วงเยาวชนเป็นเหยื่อเปิดบัญชีม้า หลังพบสามเดือนธุรกรรมต้องสงสัยเพิ่ม 8 พันบัญชี


  • รัฐบาลห่วงเยาวชนตกเป็นเหยื่อ อาจถูกหลอกให้เปิดบัญชีม้า
  • ที่ผ่านมาหน่วยงานต่างๆ จะจับตาดูบัญชีของเยาวชนที่ผ่านเกณฑ์อายุขั้นต่ำในการเปิดบัญชีเป็นพิเศษเพราะเป็นกลุ่มเปราะบาง อาจถูกล่อลวง
  • ซึ่งสถิติตั้งแต่เดือน พฤษภาคม-สิงหาคม 2565 พบความเคลื่อนไหวต้องสงสัยเพิ่มขึ้นจาก 6,211 บัญชี เป็น 14,369 บัญชี หรือเพิ่มขึ้นกว่า 8,000 บัญชี
  • ทั้งนี้ การรับเปิดบัญชีให้เงินคนอื่นไหลเข้าออกนับเป็นความผิดฐานฟอกเงิน มีโทษทั้งจำคุกและโทษปรับ ขอผู้ปกครองช่วยระวังลูกหลานตกเป็นเหยื่อ

วันที่ 24 กันยายน 2565 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเตือนผู้ปกครอง ระวังลูกหลานตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพหลอกหรือจ้างให้เปิดบัญชีผิดกฎหมาย หรือ “บัญชีม้า”

โดยที่ผ่านมาหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง เช่นตำรวจไซเบอร์ (บช.สอท.) กระทรวงดิจิทัลฯ สำนักงาน ปปง. และสำนักงาน กสทช. ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคาร โดยธนาคารทุกแห่งได้ติดตามความเคลื่อนไหวธุรกรรมบัญชีเยาวชนเป็นพิเศษ หากพบธุรกรรมผิดปกติจะดำเนินการตอบสนองโดยเร็วและรายงานต่อสำนักงาน ปปง. รวมถึงมีการจำกัดวงเงินต่อวันในการทำธุรกรรมผ่านช่องทาง Mobile Banking ตามระดับความเสี่ยงของลูกค้า พร้อมทั้งให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการอายัดบัญชีและสนับสนุนข้อมูลสำหรับสืบสวนสอบสวนอย่างทันท่วงที

นางสาวรัชดากล่าวว่า แม้จะมีหลักเกณฑ์กำหนดอายุขั้นต่ำที่สามารถเปิดบัญชีไว้ หากอายุไม่ถึงตามเงื่อนไขจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองและจะต้องให้ผู้ปกครองมาร่วมเปิดบัญชีด้วย อย่างไรก็ตาม หากอายุเกินขั้นต่ำที่กำหนดเยาวชนก็สามารถเปิดบัญชีได้ด้วยตนเอง ซึ่งกลุ่มนี้ทางธนาคารแห่งประเทศไทยจัดให้อยู่ในกลุ่มเปราะบาง อาจตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพด้วยรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือยอมรับความเสี่ยงจากผลประโยชน์ตอบแทน

ขณะที่ สถิติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า จำนวนบัญชีม้าที่ธนาคารส่งให้สำนักงาน ปปง. ตรวจสอบธุรกรรมต้องสงสัยมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกเดือน จาก 6,211 บัญชี ในเดือนพฤษภาคม 2565 เป็น 14,369 บัญชี ในเดือนสิงหาคม 2565

“ผู้ปกครองควรย้ำเตือนลูกหลานอย่ารับจ้างเปิดบัญชี เพราะจะตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพนำไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย ซึ่งการกระทำดังกล่าวเจ้าของบัญชีจะมีความผิดฐานเป็นตัวการหรือเป็นผู้สนับสนุนในความผิดนั้นๆ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83  และมาตรา 86 อีกทั้ง อาจถูกดำเนินคดีฐานฟอกเงิน ระวางโทษจำคุก 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินพ.ศ. 2542” นางสาวรัชดาฯ กล่าว


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แจ้งข้อมูลเบาะแส