Font Resizer

A Decrease font size. A Reset font size. A Increase font size.

703 views

ทางหลวงแจง 4 สาเหตุ มอเตอร์เวย์บางปะอิน-นครราชสีมาล่าช้า


  • หลังเกิดการวิจารณ์โครงการมอเตอร์เวย์บางปะอิน-นครราชสีมา ที่สร้างตั้งแต่ปี 2558-2565 มีความล่าช้าจากกำหนด กรมทางหลวงชี้แจง 4 สาเหตุหลัก โดยโครงการมีการก่อสร้าง 40 ตอน ขณะนี้เสร็จแล้ว 24 ตอน เหลือ 16 ตอนที่ติดอุปสรรค
  • 1.สภาพพื้นที่จริงที่เริ่มทำการก่อสร้างเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
  • 2.ต้องปรับปรุงรูปแบบทางวิศวกรรมและสภาพชั้นดินทางธรณีวิทยา ของพื้นที่ก่อสร้างในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดความแข็งแรงของตัวโครงสร้างของมอเตอร์เวย์ และประชาชนเดินทางใช้งานได้อย่างปลอดภัย
  • 3.ปรับรูปแบบให้เหมาะสม เช่น การยกระดับความสูงช่วงข้ามคลองชลประทาน หรือการสร้างกำแพงครอบมอเตอร์เวย์ในช่วงที่ผ่านเรือนจำ
  • 4.การปรับรูปแบบการก่อสร้าง เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อข้อร้องเรียนของประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนสามารถเดินทางเข้าออกพื้นที่ได้สะดวก
  • ในเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถเริ่มเปิดใช้งานบางส่วนได้ภายในปลายปี 2566 และจะทยอยเปิดให้บริการฟรี พร้อมทดสอบระบบการเก็บเงินค่าผ่านทางในปี 2567 และเปิดบริการเต็มรูปแบบตลอดสาย ต้นปี 2568 ต่อไป

กรณีเกิดการวิจารณ์โครงการทางหลวงพิเศษบางปะอิน – นครราชสีมา ที่รัฐบาลอนุมัติให้ก่อสร้างตั้งแต่ปี 2558 ถึง 2565 แต่ผ่านมาแล้ว 7 ปี ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเสร็จเมื่อใด อีกทั้งยังมีการของบประมาณเพิ่มอีก 6,000 ล้านบาท โดยอ้างเหตุผลต้องแก้ไขแบบ ซึ่งมีการแก้ไขแบบก่อสร้างจำนวนมากถึง 17 ตอน จึงตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการดำเนินการที่โปร่งใสหรือไม่นั้น

วันที่ 1 ก.ย. 65 นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กรมทางหลวงได้ว่าจ้างที่ปรึกษาให้ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรม และผลกระทบสิ่งแวดล้อมของทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (หรือ มอเตอร์เวย์) สายบางปะอิน – สระบุรี – นครราชสีมา พร้อมทั้งการออกแบบเบื้องต้น (Preliminary Design) แล้วเสร็จปี พ.ศ. 2547 และได้ว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อดำเนินการสำรวจและออกแบบรายละเอียด (Detailed Design) แล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2551

หลังจากนั้น คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2558 อนุมัติให้กระทรวงคมนาคม (กรมทางหลวง) ดำเนินโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางปะอิน – สระบุรี – นครราชสีมา ระยะทาง 196 กิโลเมตร ในกรอบวงเงิน 84,600 ล้านบาท

การก่อสร้างงานโยธาแบ่งเป็น 40 ตอน ซึ่งได้เริ่มต้นสัญญาก่อสร้างในช่วงปี 2559 – 2560 ปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จ 24 ตอน ส่วนที่เหลือ 16 ตอน ยังก่อสร้างไม่เสร็จ มีปัญหาอุปสรรคจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงแบบก่อสร้างตามสัญญาให้เหมาะสม ทำให้มีค่างานเพิ่มขึ้นประมาณ 6,755 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในกรอบวงเงินที่คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบเมื่อปี 2558

ทั้งนี้ ปัญหาหลักในภาพรวมของโครงการ แบ่งเป็น 4 กรณี ดังนี้

1.สภาพพื้นที่จริงที่เริ่มทำการก่อสร้างในปี 2560 ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่เคยสำรวจออกแบบไว้ตั้งแต่ปี 2551

2.ได้ปรับปรุงรูปแบบทางวิศวกรรมให้สอดคล้องกับสภาพทางกายภาพ และ สภาพชั้นดินทางธรณีวิทยา ของพื้นที่ก่อสร้างในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดความแข็งแรงของตัวโครงสร้างของมอเตอร์เวย์ และประชาชนเดินทางใช้งานได้อย่างปลอดภัย

3.ปรับรูปแบบให้เหมาะสมสอดคล้องกับโครงสร้างงานสาธารณูปโภค ต่างๆ ข้อจำกัด เงื่อนไข หรือความจำเป็นของหน่วยงานอื่น ที่มอเตอร์เวย์ตัดผ่าน เช่น การยกระดับความสูงเพิ่มขึ้นมอเตอร์เวย์ส่วนที่ข้ามคลองชลประทาน หรือการสร้างกำแพงครอบมอเตอร์เวย์ในช่วงที่ผ่านเรือนจำกลางคลองไผ่ อ.สีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา เป็นต้น

4.การปรับรูปแบบการก่อสร้าง เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อข้อร้องเรียนของประชาชนในพื้นที่ และให้สอดคล้องกับโครงข่ายถนนที่ประชาชนใช้ทางในปัจจุบัน เช่น การก่อสร้างทางขนานตามแนวมอเตอร์เวย์ในบางช่วง หรือก่อสร้างทางลอดเพิ่มขึ้น เพื่อให้ประชาชนสามารถเดินทางเข้าออกพื้นที่ได้สะดวก

กรมทางหลวงได้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ทั้งในด้านวิศวกรรมงานทางและโครงสร้าง และการบริหารสัญญาก่อสร้าง โดยมีหน่วยงานภายนอกร่วมเป็นคณะกรรมการ รวมทั้งได้ทำหนังสือหารือระเบียบข้อกฎหมาย และแนวทางการดำเนินการต่อไป กับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส คุ้มค่า ตรวจสอบได้ และเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง

ปัจจุบันกรมทางหลวงได้มีหนังสือเสนอต่อกระทรวงคมนาคมและสำนักงบประมาณ เพื่อพิจารณารายละเอียด ขออนุมัติเพิ่มวงเงินงบประมาณและขยายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณเพิ่มเติม โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สาย บางปะอิน – สระบุรี – นครราชสีมา จำนวน 16 ตอน

คาดว่ากระทรวงคมนาคมจะนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อขออนุมัติวงเงินค่าก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น ในเดือนกันยายน 2565 นี้ เมื่อได้รับอนุมัติวงเงินเพิ่มเติม กรมทางหลวงจะได้วางแผนเร่งรัดงานก่อสร้างในส่วนที่เหลือให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ในเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถเริ่มเปิดใช้งานบางส่วนได้ภายในปลายปี 2566 และจะทยอยเปิดให้บริการฟรี พร้อมทดสอบระบบการเก็บเงินค่าผ่านทางในปี 2567 และเปิดบริการเต็มรูปแบบตลอดสาย ต้นปี 2568 ต่อไป


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แจ้งข้อมูลเบาะแส