396 views

ผู้ช่วยผบ.ตร.สั่งดำเนินคดี ตร.หญิงทารุณอดีตทหารหญิง


  • หลังเกิดกรณีอดีตทหารหญิงแจ้งความร้องทุกข์ ถูกทารุณโดย “ตร.หญิง” ที่เป็นนายจ้าง ในพื้นที่จังหวัดราชบุรี
  • ผู้ก่อเหตุคือ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม เรียกรับผลประโยชน์จากผู้เสียหาย 5 แสนบาท เพื่อแลกกับการอ้างว่าจะฝากให้เข้ารับราชการทหารให้ และบังคับให้ผู้เสียหายมาทำงานที่บ้าน เมื่อไม่ถูกใจก็จะลงมือทำร้ายร่างกาย และมีการบังคับให้ลาออกจากราชการทหารในเวลาต่อมาด้วย
  • ล่าสุดผู้ต้องหาเข้ามอบตัวกับ สภ.ราชบุรีแล้ว โดยพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาในคดีค้ามนุษย์และคดีอาญา กำชับดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเด็ดขาดและไม่มีการยกเว้น

จากกรณี อดีตทหารหญิง เข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับตำรวจหญิงซึ่งเป็นนายจ้าง บังคับใช้แรงงานดูแลรับใช้  และทำร้ายร่างกาย เช่น ถูกตบตี ถูกช็อตไฟฟ้าตามร่างกาย ใช้ไม้ตีที่ใบหน้า เป็นต้น ในพื้นที่จังหวัดราชบุรี  ตามที่ปรากฏในข่าวและสื่อต่างๆ

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงดังกล่าว เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนและสื่อมวลชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมีส่วนเกี่ยวข้อง จึงต้องเร่งทำความจริงให้กระจ่างและกำชับให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเคร่งครัด

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผบก.ภ.จว.ราชบุรี และชุดปฏิบัติการ ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกสืบสวนติดตามคดีอย่างเร่งด่วน และให้นำผู้เสียหายเข้าสู่กระบวนการคัดแยกเหยื่อจากการค้ามนุษย์ร่วมกับสหวิชาชีพ เพื่อพิจารณารายละเอียดพฤติการณ์ให้ครบถ้วน

จากการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานพบว่าผู้ก่อเหตุคือ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม อายุ 43 ปี ผบ.หมู่ กก.4 บก.ส.1 และจากการสอบสวนปากคำ “น.ส.เอ” (นามสมมติ) ผู้เสียหาย ทราบว่าตนเองรู้จักกับผู้ต้องหามาเป็นเวลาหลายปี  โดยก่อนหน้านี้ตนได้มาช่วยผู้ต้องหาทำงานที่ร้านกาแฟ ก่อนจะปิดตัวลงในภายหลัง เนื่องจากขายไม่ดี ต่อมาผู้ต้องหาแจ้งว่าจะฝาก น.ส.เอ เข้ารับราชการทหาร โดยเรียกเงินค่าดำเนินการ จำนวน 5 แสนบาท ซึ่งตนนั้นได้จ่ายให้แล้วบางส่วน เหลือยอดหนี้ที่ผู้ต้องหาต้องการอีก 240,000 บาท โดยได้หักออกจากเงินเดือนหลังเข้ารับราชการแล้ว เหลือเพียงเดือนละ 3,000 บาทต่อเดือน

จากนั้นผู้ต้องหาได้ย้าย น.ส.เอ ไปช่วยราชการ และยังบังคับให้ น.ส.เอ มาทำงานอยู่ที่บ้านของผู้ต้องหา โดยทำหน้าที่ทำความสะอาดบ้าน ขับรถ ดูแลเรื่องอาหารการกิน และอื่นๆ ตามที่ผู้ต้องหาสั่ง เมื่อ น.ส.เอ ทำสิ่งใดไม่ถูกใจ ก็จะถูกผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการทุบตีตามร่างกาย ใช้ไม้หน้าสามตีตามเนื้อตัว ใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าช็อต ตามร่างกาย

ต่อมาผู้ต้องหาได้บังคับให้ น.ส.เอ ลาออกจากทหาร และขู่ว่าถ้าไม่ทำตามจะทำร้ายร่างกายอีก น.ส.เอ จึงยื่นหนังสือลาออกจากราชการ เมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา แต่ผู้ต้องหายังบังคับและทำร้ายร่างกาย น.ส.เอ เช่นเดิม ต่อมา น.ส.เอ ได้ขอความช่วยเหลือจากทางบ้านเพื่อให้พาเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาจนถึงที่สุด

ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 20 ส.ค.65 ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ ผู้ต้องหา ได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี โดยพนักงานสอบสวนจะได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ ผู้ต้องหาว่า เป็นข้าราชการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการบังคับใช้แรงงานหรือบริการ โดยการข่มขืนใจผู้อื่นให้ทำงานหรือให้บริการโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของบุคคลนั้นเอง หรือผู้อื่น โดยเป็นธุระจัดหา ซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจาก หรือส่งไปยังที่ใด หน่วงเหนี่ยวกักขัง จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ ซึ่งบุคคลใด โดยข่มขู่ ใช้กำลังบังคับ ลักพาตัว ฉ้อฉล หลอกลวง   ใช้อำนาจโดยมิชอบ ใช้อำนาจครอบงำบุคคลด้วยเหตุที่อยู่ในภาวะอ่อนด้อยทางร่างกาย จิตใจ การศึกษา หรือทางอื่นใดโดยมิชอบ ขู่เข็ญว่าจะใช้กระบวนการทางกฎหมายโดยมิชอบ หรือโดยให้เงินหรือผลประโยชน์อย่างอื่น แก่ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลบุคคลนั้น เพื่อให้ผู้ปกครองหรือผู้ดูแล ให้ความยินยอมแก่ผู้กระทำความผิด ในการแสวงหาประโยชน์จากบุคคลที่ตนดูแล อันเป็นความผิดฐาน ค้ามนุษย์ และทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ (ความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 มาตรา 6 , มาตรา 6/1 , มาตรา 13 และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295)

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีที่ประชาชนและสื่อมวลชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงได้กำชับให้มีความละเอียดรอบคอบในการรวบรวมพยานหลักฐาน รวมทั้งเร่งรัดให้มีการดำเนินการให้ความช่วยเหลือกับเหยื่อให้ได้รับความยุติธรรม ในกรณีของตัวตำรวจหญิงซึ่งได้มอบตัวแล้วนั้น จะดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเด็ดขาดและไม่มีการยกเว้น นอกจากนี้จะให้ทางต้นสังกัดพิจารณาโทษทางวินัยเพื่อมิให้เกิดการกระทำผิดในลักษณะเช่นนี้อีก


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แจ้งข้อมูลเบาะแส