กรมควบคุมโรค เตือนคนไทยให้เลิกสูบบุหรี่ อย่าตกเป็นเหยื่อธุรกิจยาสูบในช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 เพราะการสูบบุหรี่ทำลายปอด เพิ่มโอกาสเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และส่งผลให้อาการของผู้ติดเชื้อดังกล่าวทรุดหนักได้
นายแพทย์ขจรศักดิ์ แก้วจรัส รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้มีการแจ้งเตือนมายังประเทศสมาชิกทั่วโลก หลังพบกลุ่มธุรกิจยาสูบบางกลุ่มอาศัยวิกฤตการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า ผ่านสื่อออนไลน์ รวมทั้งมีบริการจัดส่งฟรีให้กับผู้ที่กักตัวอยู่บ้านในช่วงเฝ้าระวังโรค
กรมควบคุมโรค จึงขอแจ้งเตือนประชาชนอย่าหลงกลตกเป็นเหยื่อให้กับธุรกิจยาสูบเหล่านี้ เพราะการสูบบุหรี่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อปอด และระบบทางเดินหายใจ รวมทั้งการสูบบุหรี่หรือแม้แต่บุหรี่ไฟฟ้าในช่วงเวลาที่ยังมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังเป็นการเพิ่มโอกาสเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสดังกล่าวขณะใช้มือคีบสูบ หรือพ่นควัน ละอองไอออกมา นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีประวัติการสูบบุหรี่ หรือบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งสุขภาพปอดไม่แข็งแรงจะยิ่งทำให้อาการทรุดหนัก และเสียชีวิตได้
กรมควบคุมโรค ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนคนไทย ใช้วิกฤตการณ์แพร่ระบาดครั้งนี้เป็นโอกาสเริ่มต้นในการเลิกสูบบุหรี่ เพราะการสูบบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า นอกจากทำลายสุขภาพตัวเองและคนรอบข้างแล้ว การเสียเงินซื้อบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้ามาสูบ ยังเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
ทั้งนี้ สำหรับผู้ต้องการเลิกบุหรี่สามารถรับคำปรึกษาเพื่อเลิกบุหรี่ โดยไม่ต้องออกจากบ้านได้ ผ่านโทรฟรีสายด่วนเลิกบุหรี่ทางโทรศัพท์แห่งชาติ ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1600