- รมช.กลาโหม ตอบกระทู้ถามสดในสภา ปมเครื่องบินรบเมียนมาบินล้ำน่านฟ้าไทยเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยยืนยันว่า กองทัพอากาศมีการเฝ้าระวังน่านฟ้าตลอด 24 ชั่วโมง และติดตามเครื่องบินรบของเมียนมาตั้งแต่ก่อนรุกล้ำน่านฟ้า แต่เป็นการรุกล้ำเข้ามาในระยะเวลาสั้นๆ ในทิศทางการบินกลับฐาน จึงตอบโต้และประท้วงผ่านทูตทหาร
- พร้อมส่ง F16 ขึ้นไปบินลาดตระเวนรบเพื่อป้องปรามตามหลักสากล และตามอำนาจหน้าที่ และหลังจากเกิดเหตุ เอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทยได้เข้าพบกระทรวงการต่างประเทศพร้อมยืนยันไม่มีเจตนารุกล้ำน่านฟ้า
- และรมช.กลาโหมยืนยันว่าไทยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการใดๆ ในเมียนมาทั้งสิ้น
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 8 ก.ค. 65 พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ตอบกระทู้ถามสดของ นายศราวุธ เพชรพนมพร ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย กรณีเครื่องบินรบของประเทศเมียนมาปฏิบัติการบินรุกล้ำน่านฟ้าประเทศไทย ว่า กองทัพอากาศมีระบบเฝ้าระวังทางอากาศตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยระบบเรดาร์ มีระบบตรวจจับเครื่องบินใกล้ชายแดนและมีหน่วยบินเตรียมพร้อมปฏิบัติการได้ในทันที
สำหรับกรณีดังกล่าวเกิดเหตุเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยเรดาร์ตรวจพบอากาศยานของเมียนมาบินห่างชายแดนไทย 180 กิโลเมตร ซึ่งได้เฝ้าติดตามตลอดเวลากระทั่งพบเวลา 11.56 น. บินล้ำเขตแดนมา 1 ไมล์ทะเล ในระยะเวลาอันสั้นบริเวณอำเภอพบพระ จังหวัดตาก โดยมีทิศทางมุ่งหน้ากลับฐานบิน จึงสั่งการเตรียมมาตรการตอบโต้และประท้วงผ่านผู้ช่วยทูตทหารอากาศไทยประจำเมียนมา และกรรมการชายแดนท้องถิ่น
จากนั้น 14.00 น. ตรวจพบอากาศยานคาดเป็น ฮ. แบบ MI 17 ห่างชายแดนไทยประมาณ 48 ไมล์ทะเล หรือประมาณ 86 กิโลเมตร จึงส่งเครื่องบินขับไล่ F16 จำนวน 2 ลำ ขึ้นบิน เวลา 14.02 น. เพื่อสกัดกั้น กระทั่งพบว่า เครื่องลำดังกล่าวปฏิบัติการโดยไม่ได้รุกล้ำเข้ามาในเขตแดน จึงสั่งการให้เครื่องบินลาดตระเวนรบเพื่อป้องปราม ซึ่งถือเป็นปฏิบัติการสากลตามแบบแผนทางทหารโดยดำเนินการตามขอบเขตอำนาจหน้าที่ และการตอบโต้ที่รัดกุมทั้งการทหารและการทูต
นอกจากนี้ยังใช้กลไกประสานงานชายแดนท้องถิ่นที่มีอยู่ในระดับต่าง ๆ เพื่อประสาน แจ้งเตือนไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นมาอีก โดยยืนยันว่าไทยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการใด ๆ ในเมียนมาทั้งสิ้น
ทั้งยังมีนโยบายชัดเจนไม่ให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดหรือสนับสนุนฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไปปฏิบัติการในประเทศอื่น ๆ ทำให้เกิดความขัดแย้งโดยเด็ดขาด ส่วนผู้เสียชีวิตต้องแสดงความเสียใจ ซึ่งเสียชีวิตอยู่ในเมียนมา โดยเป็นชนกลุ่มน้อยที่เกิดในประเทศไทยถือบัตรสีชมพู มีสถานะเป็นบุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทย
ส่วนคลิปที่ ส.ส.เพื่อไทย นำมาเปิดเผย ซึ่งเป็นคลิปเครื่องบินรบเมียนมาที่ปฏิบัติการอยู่นั้น กองทัพอากาศตรวจสอบแล้ว เป็นปฏิบัติการในเขตเมียนมา พร้อมเน้นย้ำประสิทธิภาพความพร้อมของกองทัพอากาศในการปฏิบัติภารกิจปกป้องอธิปไตยน่านฟ้าไทย
รัฐมนตรีว่าช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวอีกว่า กระทรวงการต่างประเทศได้มีหนังสืออย่างเป็นทางการไปถึงกระทรวงการต่างประเทศเมียนมาเพื่อประท้วง พร้อมเรียกร้องให้เยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ กรมเอเชียตะวันออก เชิญเอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทยเข้าพบเพื่อยื่นหนังสือประท้วงดังกล่าว โดยเอกอัครราชทูตเมียนมายืนยันไม่มีเจตนารุกล้ำเข้ามาในเขตประเทศไทย
