การจะปรับขึ้นค่าแรงนั้นจะต้องเกิดการทดสอบทักษะฝีมือแรงงาน ได้ปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ 13 สาขา ในปี 2564 และจะเพิ่มอีก 16 สาขา ในปี 2565 รวม 112 สาขา
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ชี้แจงในการประชุมพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 กรณีข้อกล่าวหาฝ่ายค้าน ว่าไม่สามารถปรับขึ้นค่าแรงเป็น 425 บาท ได้ โดยเปรียบเทียบการขึ้นค่าแรงในอดีต ว่า ค่าแรงที่พรรคพลังประชารัฐเคยระบุในนโยบายหาเสียง 400- 425 บาท นั้น สามารถทำได้แน่ ถ้าไม่เกิดสถานการณ์โควิด-19 เพราะปรับขึ้นเพียงปีละร้อยละ 6-7 แต่หากปรับขึ้นในระยะ 2 ปีที่ผ่านมา จะเป็นการทำร้ายประเทศ ส่งผลกระทบและเป็นการซ้ำเติมผู้ประกอบการที่เดือดร้อนจากโควิด-19 แต่ยังให้คำยืนยันว่าในปีนี้จะสามารถปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำได้อย่างแน่นอน แต่จะปรับได้เท่าไหร่ ต้องตอบคำถามสภานายจ้าง สภาอุตสาหกรรม หอการค้า ผู้ประกอบการ และ นายจ้างให้ได้ ย้ำถ้ากลุ่มเหล่านั้นอยู่ได้ รัฐบาลก็อยู่ได้
การจะปรับขึ้นค่าแรงนั้น จะต้องเกิดการทดสอบทักษะฝีมือแรงงาน โดยค่าแรงขั้นต่ำไม่มีความเสมอภาคกันจะแตกต่างกันที่สาขาอาชีพและทักษะฝีมือ ซึ่งได้ปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ 13 สาขา ในปี 2564 และจะเพิ่มอีก 16 สาขา ในปี 2565 รวม 112 สาขา ที่จะได้อัตราค่าแรงขั้นต่ำสูงสุดที่ 855 บาท เช่น ช่างเชื่อมระดับ 3 และ ต่ำสุด 345 บาท คือช่างเย็บผ้า แต่ไม่ใช่ค่าแรงขั้นต่ำเสมอภาค เป็นการปรับตามเกณฑ์อัตราวิชาชีพ
เดือนนี้มิถุนายนนี้ มีการประชุมคณะกรรมการค่าจ้างจังหวัด 77 จังหวัด ซึ่งจะพิจารณาปรับอัตราค่าจ้างตามสถานการณ์เงินเฟ้อ จีดีพี และข้อมูลที่เกี่ยวข้องตามจริง ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2566