- เพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 2 เผยแพร่ภาพวงจรปิด วัยรุ่นชาย 3 คน ขี่จยย.มาขอความช่วยเหลือกับตำรวจ รถสายตรวจสามพราน นครปฐม เพราะถูกคู่อริไล่ทำร้าย
- ตำรวจจับวัยรุ่นทั้ง 3 คนนอนถอดเสื้อ และยึดอาวุธปืนเถื่อนได้ 1 กระบอก พร้อมเตะ กระทืบ ใช้เท้าเหยียบวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าว
- บิดาของหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นแจ้งว่า ร้อยเวรคนดังกล่าวทำร้ายร่างกายลูกชายจนได้รับบาดเจ็บ
- ผบช.ภ. 7 จึงสั่งให้ 2 นายตำรวจในคลิป หยุดปฏิบัตหน้าที่ และย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ ศปก.ภ. นครปฐม พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง
- ผบช.ภ. 7 ยืนยันหากตำรวจทั้ง 2 นายผิดจริงจะดำเนินการตามวินัยและอาญาเด็ดขาดไม่มีละเว้น พร้อมขอโทษประชาชนหากผู้ใต้บังคับบัญชากระทำผิดจริง
วันที่ 21 พ.ค. 2565 จากกรณี ที่ปรากฏข่าวทางโซเชียล (เพจ “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 2”) โพสต์คลิปจากภาพวงจรปิดขณะที่วัยรุ่นชาย 3 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์มาขอความช่วยเหลือ รถสายตรวจ สภ.สามพราน จ.นครปฐม โดยวัยรุ่นกลุ่มนี้ มาขอความช่วยเหลือ ว่าถูกคู่อริ ไล่ทำร้ายร่างกายขอให้ตำรวจช่วย
แต่ปรากฎว่า ตำรวจในคลิปกลับจับวัยรุ่นทั้ง 3 คน ถอดเสื้อและนอนราบกับพื้น จากนั้น ยึดอาวุธปืนได้ 1 กระบอก แต่จากคลิปจะเห็นตำรวจ เตะ กระทืบ รวมทั้งใช้เท้าเหยียบศรีษะวัยรุ่นกลุ่มนี้ โดยที่กลุ่มวัยรุ่นไม่ได้มีท่าทีขัดขืน
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเหตุจาก สภ.สามพราน ถึงกรณีที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกกล่าวหาว่าทำร้ายร่างกายผู้ต้องหาขณะเข้าจับกุม เหตุเกิด เมื่อวันที่ 30 เม.ย.65 เวลาประมาณ 01.30 น. สถานที่เกิดเหตุ หน้าหมู่บ้าน พฤษาวิวล์ ถ.บรมราชชนนี ม.1 ต.บางเตย อ.สามพราน จ.นครปฐม
สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องหาว่าทำร้าย คือ ร.ต.อ.ไชยะพจน์ โคตรสำราญ ร้อยเวร ส่วนผู้ถูกทำร้าย ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนเถื่อน นายพัสวเรศ คำยอด อายุ 20 ปีของกลางที่พบ อาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืนเบอร์ 12 จำนวน 2 นัด สำหรับพฤติการณ์ ตามวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุ ร.ต.อ.ไชยะพจน์ฯ ปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวร ได้ออกตรวจพื้นที่พร้อมพลขับได้รับแจ้งจากศูนย์ 191 มีการรวมตัวกลุ่มวัยรุ่นและขับขี่รถย้อนศรไปมาบริเวณหน้าหมู่บ้านที่เกิดเหตุ จึงได้เดินทางไป แต่ไม่พบกลุ่มวัยรุ่นอยู่บริเวณดังกล่าว ร.ต.อ.ไชยะพจน์ฯ จึงได้จอดรถเปิดสัญญาณไฟป้องกันเหตุ ระหว่างนั้นนายพัสวเรศฯ ได้ขี่รถจักรยานยนต์ย้อนศรมาตามถนนบรมราชชนนี พร้อมกับพวกอีก 2 คน จึงได้เรียกตรวจค้นพบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน จึงได้จับกุมตัวนายพัสวเรศฯ ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
ต่อมาบิดาของนายพัสวเรศฯ ได้แจ้งว่านายพัศวเรศฯ ถูก ร.ต.อ.ไชยะพจน์ฯ ทำร้ายร่างกายโดยการเตะและกระทืบจนได้รับบาดเจ็บ
เวลาต่อมา ภ.จว.นครปฐม จะได้มีคำสั่งให้ ร.ต.อ.ไชยะพจน์ฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ และไปประจำ ศปก.ภ.จว.นครปฐม พร้อมทั้งออกคำสั่งตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ในขณะเดียวกัน สภ.สามพราน ติดตามผลการชันสูตรบาดแผล เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ท.ธนายุตม์ เปิดเผยอีกว่าในวันนี้ 16.00 ตนได้เรียก รอง ผบช.ภ.7 ที่รับผิดชอบพื้นที่ พร้อมทั้ง ผบก ,รอง ผบก ภ.จว.นครปฐม,ผกก.สภ.สามพราน พร้อมตำรวจที่เกี่ยวข้อง มาประชุมสรุปหาข้อเท็จจริงเพื่อให้ประชาชนได้ทราบและให้เกิดความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย ขอยืนยันว่า หากผลการสอบสวนข้อจริงพบว่า การกระทำของตำรวจทั้งสองนายว่าผิด จะดำเนินการทั้งวินัย และอาญาอย่างเด็ดขาด ในเบื้องต้นอยากขอโทษ ต่อสังคมถึงกรณีดังกล่าวหากผู้ใต้บังคับบัญชาตนกระทำความผิด แต่อย่างไรเสียก็ต้องรอผลการสอบข้อเท็จจริงว่าได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ เพื่อจะได้เกิดความเป็นธรรมต่อทั้งสองฝ่าย
