- หลังการบุกจับกุมเมื่อวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา พบยาน้ำสมุนไพร และยาเม็ดสเตียรอยด์ ตร.ได้ขยายผลตามจับกุมไปถึงแหล่งผลิตในจังหวัดระยองและขอนแก่น จนพบผู้ผลิตใหญ่
วันที่ 5 พฤษภาคม 2565 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติงานกรณีการขยายผลการจับกุมการทลายแหล่งผลิตน้ำสมุนไพร ผสมสเตียรอยด์ และแหล่งผลิตภัณฑ์สมุนไพรไม่ได้มาตรฐาน เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2565 โดยตรวจยึดของกลาง 124 รายการ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ได้ร่วมกันกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) นำหมายค้นศาลจังหวัดพล เข้าตรวจค้นสถานที่ผลิตและเก็บอาหารและผลิตภัณฑ์สมุนไพรผิดกฎหมายในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น จำนวน 4 จุด ผู้ต้องหา 4 คน โดยพบของกลางเป็นน้ำสมุนไพร กว่า 26,000 ขวด, ยาเม็ดในกลุ่ม สเตียรอยด์ จำนวนกว่า 2,092,000 เม็ด, ยาเม็ดแก้ปวดไม่มีทะเบียน จำนวนกว่า 2,224,000 เม็ด ยาเม็ดแก้แพ้ พร้อมตรวจยึดอุปกรณ์การผลิตจำนวนมากส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ.ดำเนินคดี
เบื้องต้นเป็นความผิดฐาน 1. ร่วมกันผลิตเพื่อจำหน่ายอาหารปลอม, 2. ร่วมกันผลิตเพื่อจำหน่ายอาหารโดยสถานที่ผลิตอาหารไม่ผ่านหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิตอาหาร, 3. ร่วมกันผลิตเพื่อขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรปลอม และ 4. ร่วมกันผลิตเพื่อขายผลิตภัณฑ์สมุนไพร โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัวอย่างเครื่องดื่มสมุนไพรตรวจยังกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ปรากฏพบกรดเบนโซอิก (วัตถุกันเสีย) มีปริมาณเกินกฎหมายกำหนด และหากพบสารต้องห้ามจะเข้าข่ายความผิดฐาน“ผลิตอาหารไม่บริสุทธิ์ ตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
กรณีผลิตภัณฑ์ “ยากษัยเส้น ตราปู่แดง” ผลการตรวจวิเคราะห์จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ผลการตรวจเอกลักษณ์ยืนยันพบตัวยา 4 ชนิด ได้แก่ เดกซาเมทาโซน, เพรดนิโซโลน,ไพร็อกซิแคม และ คลอร์เฟนิรามีน เข้าข่ายความผิดฐาน ผลิต ขาย ผลิตภัณฑ์สมุนไพรปลอม ตาม พ.ร.บ. ผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ. 2562 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท และ ผลิต ขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับ โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
กรณีตรวจพบยาที่ไม่มีทะเบียนตำรับยาและมีทะเบียนตำรับยา ผลการตรวจวิเคราะห์จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ผลการตรวจเอกลักษณ์ยืนยันพบเป็นตัวยา ไพร็อกซิแคม และคลอร์เฟนิรามีน เข้าข่ายความผิดฐาน พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท และ ขายซึ่งยาไม่มีทะเบียนตำรับยา จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนขยายผลถึงแหล่งที่มาของยาสเตียรอยด์จนกระทั่งทราบตัวผู้จำหน่ายยาสเตียรอยด์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขยายผลในการตรวจค้นเพื่อตรวจยึดพยานหลักฐาน, ตรวจค้นผู้ผลิตน้ำสมุนไพรผสมสเตียรอยด์อื่นๆในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น และโรงงานผลิตน้ำสมุนไพร 2 แห่ง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายค้น พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เข้าตรวจค้นพื้นที่จังหวัด ขอนแก่น และจังหวัดระยอง จำนวน 6 จุดรายละเอียด ดังนี้
1. บ้านชั้นเดียว หมู่ 3 ตำบลใหม่นาเพียง อำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น พบ น.ส.อุบลรัตน์ (สงวนนามสกุล) ตรวจยึดพยานหลักฐานความเชื่อมโยงทางการเงินยืนยันการเป็นผู้จำหน่ายยาสเตียรอยด์ ให้กับกลุ่มผู้ค้าเครื่องดื่มสมุนไพรผสมสเตียรอยด์ในพื้นที่ใกล้เคียง จำนวน 27 รายการ
2. บ้านสองชั้น หมู่ 3 ต.ใหม่นาเพียง อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น พบนายเดชา(สงวนนามสกุล) ตรวจยึดเครื่องดื่มสมุนไพรยี่ห้อ ธิดาเทพ และดีเฮิร์บ จำนวนหนึ่ง พร้อมของกลางที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเครื่องดื่มผสมสมุนไพร จำนวน 9 รายการ
3. บ้านชั้นเดียว หมู่ 13 ต.ใหม่นาเพียง จ.ขอนแก่น พบ นายจำเนียร(สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นสามีของนางอุบลรัตน์ฯ ตรวจยึดเครื่องดื่มสมุนไพรบรรจุขวดไม่ติดฉลาก และพบฉลากเครื่องดื่มสมุนไพร ยี่ห้อ ปลาธิดา และยี่ห้อ งามดี พร้อมของกลางที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเครื่องดื่มสมุนไพรผสมสเตียรอยด์ จำนวน 27 รายการ
4. โรงงานผลิตอาหารและเครื่องดื่มสมุนไพรโรงงานที่ 1 หมู่ 8 ต.บ้านแท่น อ.ชนบท จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบความเชื่อมโยงกับผู้ขายเครื่องดื่มสมุนไพรผสมสเตียรอยด์ และตรวจยึดผลิตภัณฑ์เพื่อตรวจสอบคุณภาพ รวมจำนวน 22 รายการ
5. โรงงานผลิตอาหารและเครื่องดื่มสมุนไพรโรงงานที่ 2 หมู่ 8 ต.บ้านแท่น อ.ชนบท จ.ขอนแก่น พบความเชื่อมโยงผู้ค้าเครื่องดื่มสมุนไพรผสมสเตียรอยด์ และตรวจยึดผลิตภัณฑ์เพื่อตรวจสอบคุณภาพ รวมจำนวน 10 รายการ
6. บ้านสองชั้น หมู่ 4 ต.บ้านค่าย อ.บ้านค่าย จ.ระยอง (บ้านของภรรยาของนายเดชาฯ) ตรวจยึดเครื่องดื่มสมุนไพรยี่ห้อธิดาเทพ และเดย์เฮิร์บ จำนวนมาก พร้อมของกลางที่เกี่ยวข้องในการผลิตเครื่องดื่มสมุนไพรผสมสเตียรอยด์ จำนวน 15 รายการ
โดยทั้ง 6 จุด พบของกลางน้ำสมุนไพรบรรจุขวด จำนวน 2,600 ขวด, อุปกรณ์การผลิต และพยานหลักฐานอื่นๆ ในคดี โดย น.ส.อุบลรัตน์ฯ รับว่าตนเองเป็นผู้ขายยาสเตียรอยด์ให้กับกลุ่มผู้ผลิตและค้าเครื่องดื่มสมุนไพรผสมยาสเตียรอยด์ในชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียงหลายราย โดยได้ไปซื้อยาสเตียรอยด์ จากร้านขายยาแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น จำนวนมากมาแบ่งขาย ส่วน นายเดชาฯ ประกอบอาชีพเป็นครู อัตราจ้าง รับว่า เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ ธิดาเทพ และ เดย์เฮิร์บ โดยได้สั่งผลิตเครื่องดื่มสมุนไพรจากโรงงานและนำมาผสมยาสเตียรอยด์ก่อนนำไปจำหน่าย ซึ่งของกลางที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดส่วนหนึ่งมีการผสมยาสเตียรอยด์ที่ซื้อมาจาก น.ส.อุบลรัตน์ฯ เข้าไปแล้ว ซึ่งหากนางอุบลรัตน์ไม่มีขายก็จะไปซื้อจากร้านขายยาใน อ.พล จ.ขอนแก่น จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. จึงได้นำของกลางส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ.ดำเนินคดี
เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม
1. พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 ฐาน “ผลิตและจำหน่ายอาหารไม่บริสุทธิ์ เป็นอาหารที่มีสิ่งที่น่าจะเป็นอันตรายแก่สุขภาพเจือปนอยู่ด้วย” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2. พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 ฐาน “ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท และ “ขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ภก. วีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า อย. และ บก.ปคบ. อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนหาต้นน้ำของการจำหน่ายยาสเตียรอยด์นอกระบบ และจะดำเนินการปราบปรามให้หมดสิ้น ระหว่างนี้ฝากความห่วงใยมายังกลุ่มผู้สูงอายุ เกษตรกร และผู้ใช้แรงงานในต่างจังหวัดซึ่งเป็นลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของขบวนการจำหน่ายน้ำผลไม้/น้ำสมุนไพรผสมสเตียรอยด์ อาการปวดเมื่อยจากการทำงานเป็นเรื่องปกติ แนะนำให้อบอุ่นร่างกาย ยืดเหยียดกล้ามเนื้อทุกครั้งก่อนทำงานหนัก จะช่วยลดอาการปวดเมื่อยได้ หากจำเป็นต้องใช้ยาให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อน เพื่อการได้รับยาอย่างถูกต้อง ปลอดภัย การได้รับยาสเตียรอยด์ในปริมาณมากและต่อเนื่องเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เป็นสาเหตุของโรคมากมาย เช่น แผลในกระเพาะอาหาร กระดูกพรุน บวมน้ำ และอาจเสียชีวิตเนื่องจากไตวาย อย่าหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อ แจ้ง อย.ให้ช่วยเหลือ ชี้เบาะแสเสือ โทรสายด่วน อย. 1556
พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. กล่าวในตอนท้ายว่า ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วม อย. ขยายผลทลายขบวนการผลิตยาน้ำสมุนไพรเถื่อน ผสมสเตียรอยด์ และผู้ขายยาสเตียรอยด์เถื่อนในเฟส 3 ต่อไป และจะดำเนินการให้ถึงต้นน้ำ ฝากความห่วงใยมายังพี่น้องประชาชนว่า ควรใช้ความระมัดระวังในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สมุนไพรและยามารับประทานเพื่อรักษาโรค ควรเลือกซื้อจากร้านขายยา หรือผู้ที่ได้รับอนุญาตขายผลิตภัณฑ์สมุนไพร และขอเตือนผู้ที่ลักลอบผลิต และขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรปลอมหรือที่ไม่ได้รับอนุญาตให้หยุดการกระทำดังกล่าวทันที หากตรวจพบจะดำเนินคดีถึงที่สุด เพราะท่านกำลังทำให้ผู้บริโภคได้รับอันตราย เกิดผลกระทบกับร่างกายและเสียโอกาสได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ทั้งนี้หากประชาชนพบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน ปคบ. 1135 หรือเพจ ปคบ. เตือนภัยผู้บริโภค