Font Resizer

A Decrease font size. A Reset font size. A Increase font size.

577 views

รัฐบาลมุ่งมั่นแก้ปัญหาหมอกควันข้ามแดน ขอสมาชิกอาเซียนในอนุภูมิภาคแม่โขงแก้ปัญหาด่วน


  • กระทรวงทรัพยฯ แจ้งสำนักเลขาอาเซียน ให้ประเทศในอนุภูมิภาคแม่โขงยกระดับแก้ปัญหาหมอกควันด่วน
  • จุดความร้อนในอนุภูมิภาค ดีขึ้นจากปีที่แล้วราว 38%
  • ไทยเป็นผู้นำขับเคลื่อนผลักดันให้ประเทศสมาชิกอาเซียนลดจำนวนจุดความร้อนในภูมิภาค ในปี 2565 ลงจากปี 2564 อย่างน้อยร้อยละ 20
  • ศกพ.คาดสถานการณ์ PM 2.5 จะดีขึ้นตั้งแต่ หลังวันที่ 14 เมษายน 2565 เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 19 เมษายน 2565

วันที่ 13 เมษายน 2565 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่าปัญหาหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ส่วนหนึ่งมาจากหมอกควันข้ามแดน ทั้งนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะคณะกรรมการภายใต้รัฐมนตรีประเทศภาคีต่อข้อตกลงอาเซียนว่าด้วยมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน ได้แจ้งสำนักเลขาธิการอาเซียน ให้ประเทศในอนุภูมิภาคแม่โขงยกระดับการดำเนินการแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนอย่างเร่งด่วน

นายวราวุธ กล่าวอีกว่า ได้กราบเรียนปัญหาต่อนายกรัฐมนตรีในการประชุม ครม. ที่ผ่านมา พร้อมขอความร่วมมือกระทรวงการต่างประเทศในการแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนอีกทางหนึ่ง โดยหวังว่าการยกระดับความร่วมมือในครั้งนี้ จะสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้โดยเร็ว

อย่างไรก็ตาม จำนวนจุดความร้อนในอนุภูมิภาคแม่โขงปี 2565 นี้ ดีขึ้นกว่าปี 2564 โดยจำนวนจุดความร้อนสะสมตั้งแต่มกราคมจนถึงปัจจุบันลดลงถึงร้อยละ 38 โดยที่ผ่านมาประเทศไทยได้เป็นผู้นำในการขับเคลื่อนพยายามผลักดันให้ประเทศสมาชิกอาเซียนลดจำนวนจุดความร้อนในภูมิภาคในปี 2565 ลงจากปี 2564 อย่างน้อยร้อยละ 20 พร้อมทั้งขยาย Haze Free ASEAN Roadmap สำหรับภูมิภาคอาเซียน และแผนปฏิบัติการเชียงราย 2017 สำหรับอนุภูมิภาคแม่โขง โดยแผนปฎิบัติการเชียงรายได้ถูกขยายไปอีก 5 ปี ทั้งนี้ประเทศไทยมุ่งหวังให้การป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนในภูมิภาคอาเซียนมีผลในทางปฏิบัติให้มากยิ่งขึ้น และพร้อมให้ความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อการป้องกันแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรม

ทั้งนี้ ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) คาดการณ์ว่าสถานการณ์ PM2.5 ในพื้นที่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นตามลำดับ หลังวันที่ 14 เมษายน 2565 เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 19 เมษายน 2565 เนื่องจากสภาพอุตุนิยมวิทยาที่เอื้อต่อการระบายอากาศ อย่างไรก็ตามต้องดำเนินการควบคุมจำนวนจุดความร้อนควบคู่ไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณภาคเหนือด้านตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนที่ติดชายแดน


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แจ้งข้อมูลเบาะแส