Font Resizer

A Decrease font size. A Reset font size. A Increase font size.

474 views

ผบ.ตร.ไทย-กัมพูชา ร่วมมือปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์-ช่วยคนไทยถูกหลอกไปทำงาน


  • รัฐบาลไทยมีนโยบายในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และ การค้ามนุษย์ จริงจัง
  • ตั้งแต่ ตุลาคม 2564 มีการช่วยเหลือคนไทยกลับประเทศแล้วกว่า 800 ราย กว่า 300 รายเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์

วันที่ 12 เม.ย. 2565 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางจากประเทศไทยไปเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา และได้เข้าพบเยี่ยมคารวะ พล.ต.อ.เน็ท สะเวิน ผบ.ตร.กัมพูชา พร้อมคณะตำรวจของกัมพูชา เพื่อร่วมประชุมหารือในการขอความร่วมมือประสานงานเข้าช่วยเหลือคนไทยที่ถูกหลอกลวงมาบังคับใช้แรงงานโดยผิดกฎหมายในต่างประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และประสานความร่วมมือเพื่อพาคนไทยดังกล่าวเดินทางกลับประเทศไทย

ซึ่งก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กำชับให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทำการสืบสวนปราบปรามจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และ การค้ามนุษย์อย่างจริงจังโดยตั้งแต่ปลายเดือน ตุลาคม 2564 เป็นต้นมา ได้ช่วยเหลือคนไทยกลับประเทศไปแล้วกว่า 800 ราย โดยส่วนหนึ่งเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์เกือบ 300 ราย

รวมถึงการปฎิบัติในห้วง 2 วันที่ผ่านมา ได้ช่วยเหลือคนไทยออกมา 66 รายฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชา ได้มีข้อหารือในประเด็นต่างๆที่เกี่ยวข้องกับความร่วมมือระหว่างตำรวจทั้งสองประเทศ ในการประสานความร่วมมือการปราบปรามอาชญากรรมในอนาคต และการไปเยือนคณะตำรวจกัมพูชาในครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นการยกระดับความสัมพันธ์อันดีของตำรวจทั้งสองประเทศ รวมทั้งเป็นการร่วมกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และเป็นการยกระดับการปฏิบัติงานร่วมกัน เชื่อมความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมายาวนาน

อีกทั้งที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีนโยบายสำคัญในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในทุกมิติ รวมถึงการสืบสวนปราบปรามจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขบวนการค้ามนุษย์ และการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน

เพื่อเป็นการสนองนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาเรื่องดังกล่าวรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลอดการหารือทั้งสองฝ่ายได้ตระหนักถึงปัญหาสำคัญที่กระทบต่อความมั่นคงและการบังคับใช้กฎหมายร่วมกัน และเห็นชอบร่วมกันให้มีการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันด้านต่างๆ โดยให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูล และองค์ความรู้ ให้สอดคล้องกับปัญหาอาชญากรรมโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และด้านความมั่นคง รวมทั้งเพิ่มความร่วมมืออย่างจริงจังในการจัดระเบียบชายแดน เพื่อป้องกัน สกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด การค้ามนุษย์ และการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ความร่วมมือกันในการแก้ปัญหา ด้านแรงงาน และกลุ่มบุคคลที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของทั้งสองประเทศ


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แจ้งข้อมูลเบาะแส