“รอง ผบ.ตร. สั่งคุมเข้มความปลอดภัย ประชาชนเดินทางกลับช่วงสงกรานต์ เมาไม่ขับ คนขับรถโดยสารต้องตรวจสารเสพติด แอลกอฮอล์”
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบงานจราจร เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มีความห่วงใยและสั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวกการจราจร ให้กับประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาในห้วงเทศกาลสงกรานต์ พร้อมกำชับ ให้กวดขันผู้ขับขี่รถ ที่ฝ่าฝืนกฎจราจรก่อให้เกิดอุบัติเหตุ และวันที่ 12 เมษายนนี้ คาดว่า จะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาฉลองสงกรานต์มากที่สุด
เจ้าหน้าที่มีความกังวล เรื่องประสิทธิภาพของผู้ขับขี่รถโดยสาร ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร และ ตำรวจปราบปรามยาเสพติด เข้าไปประสานสถานีขนส่งทั่วประเทศ โดยเฉพาะ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร), สถานีขนส่งผู้โดยเอกมัย และ และสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (สายใต้ใหม่) ตรวจวัดแอลกอฮอลล์ และสารเสพติดผู้ขับขี่รถโดยสาร เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุ รวมถึงประชาชนที่ขับขี่รถ ห้ามดื่มแอลกอฮอล์ในขณะขับขี่อย่างเด็ดขาด เพราะจะก่อให้เกิดความสูญเสียกับผู้อื่น และตนเอง
การป้องกัน และลดอุบัติเหตุ ให้ทุกหน่วยทำบัญชีกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่เพื่อเข้าไปรณรงค์ประชาสัมพันธ์ป้องปรามกลุ่มเป้าหมาย ตั้งจุดตรวจกวดขันวินัยจราจร 1,937 จุด จุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ 1,430 จุด และชุดสายตรวจจราจรอีก 1,903 ชุด เพื่อกวดขันจับกุมการกระทำผิดกฏจราจรที่เป็นปัจจัยเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ เริ่มตั้งแต่ 4 เม.ย. 2565 เป็นต้นมา และช่วง 7 วันควบคุมเข้มข้น โดยทุกจังหวัดได้ตั้งค่าเป้าหมายการลดอุบัติเหตุ ผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ ต้องลดลงจากค่าเฉลี่ยสงกรานต์ 3 ปีย้อนหลัง ไม่น้อยกว่าร้อยละ 5
รอง ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า สงกรานต์ปีนี้ นายกรัฐมนตรี อยากให้ประชาชนเดินทางกลับอย่างปลอดภัย และเกิดอุบัติน้อยที่สุด กำชับให้ตำรวจกวดขันวินัยจราจรอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะ 10 ข้อหาหลัก มาตรการทั้งหมดที่ดำเนินการมานั้น เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกการจราจร ให้ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาอย่างปลอดภัย และเป็นการป้องกันไม่ให้มีการกระทำผิดกฏจราจรจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายบนท้องถนน
หากพบอุบัติเหตุ หรือรถเสีย สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน บก.ทล. 1193 หรือ สายด่วนกรมทางหลวง 1586 หรือ สายด่วน บก.จร. 1197 ตลอด 24 ชม.