“ตำรวจไซเบอร์ระดมปราบปรามบัญชีม้าตัดวงจรการหลอกลวงภัยออนไลน์” ตามนโยบายของรัฐบาล โดย ฯพณฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ในทุกรูปแบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เร่งปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการว่าจ้างผู้อื่นให้ไปเปิดบัญชีธนาคารให้ แล้วนำบัญชีธนาคารนั้นไปกระทำความผิด หรือที่เรียกว่าบัญชีม้านั้น พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. ได้ให้ความสำคัญ และตระหนักถึงภัยจากการกระทำผิดในเรื่องดังกล่าว จึงสั่งการให้ทุกกองบังคับการในสังกัด ดำเนินการตามข้อสั่งการ โดยให้มีผลการจับกุมผู้กระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง และเป็นรูปธรรม มุ่งเน้นการบังคับใช้กฎหมาย ตัดวงจรการกระทำความผิดของมิจฉาชีพ ซึ่งที่ผ่านมาได้สร้างความเสียหายให้แก่ประชาชนจำนวนมาก
ระหว่างวันที่ 16 ธ.ค. – 22 ธ.ค. 2564 (7 วัน) สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 26 ราย ตรวจยึดของกลางบัญชีธนาคารจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 36 ล้านบาท ยกตัวอย่างคดีสำคัญ เช่น คดีหลอกลวงให้ร่วมลงทุนเทรดเงินสกุลดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชัน DAXIN, คดีหลอกขายโทรศัพท์ไอโฟนให้กับเด็ก นร.ชั้น ม.2 อายุ 14 ปี, คดีเล่นแอปหาคู่ถูกหญิงหลอกเล่นหุ้นออนไลน์, คดีเอเย่นต์รับซื้อขายบัญชีม้า และปล่อยเลขล็อคกองสลาก
การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดฐาน
1.ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตาม ป.อาญา มาตรา 343 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2.ร่วมกันโดยทุจริตหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่พี่น้องประชาชน ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(1) มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3.ร่วมกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 60 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี -10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 10,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ