Font Resizer

A Decrease font size. A Reset font size. A Increase font size.

314 views

นครบาลสรุปชุมนุม 14 พ.ย. ผู้บาดเจ็บ 3 คน ยืนยันตำรวจไม่ใช้กระสุนจริง


  • รองผบช.น. แจงชุมนุม 14 พ.ย. บาดเจ็บ 3 ราย มีตร.บาดเจ็บ 2 นาย
  • ยืนยันฝ่ายตำรวจไม่ได้ใช้กระสุนจริง ใช้เพียงกระสุนยาง
  • เร่งสืบสวน หากพบผู้กระทำผิดจพดำเนินคดีเด็ดขาด
  • กรณีเผาศาล-หุ่นฟาง หากเข้าข่ายหมื่นศาลจะมีการดำเนินคดี ส่วนความผิดอื่น อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน

รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ชี้แจงเหตุผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บ 3 คน อยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบอาวุธและตัวบุคคลที่ก่อเหตุ ยืนยัน ไม่มีการใช้กระสุนจริง

วันที่ 15 พ.ย. 64 พลตำรวจตรีจิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงภาพรวมการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม รวมถึง ภาคีเครือข่าย ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บระหว่างการชุมนุมเมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา

โดยระบุว่า ระหว่างการเคลื่อนขบวน ผู้ชุมนุมพยายามบุกฝ่าแนวกั้นของตำรวจบริเวณแยกเฉลิมเผ่า และขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ จนมีตำรวจได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ก่อนที่ผู้ชุมนุมจะเคลื่อนขบวนต่อไปยังหน้าสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ และได้ขว้างปาระเบิดขึ้น

เนื่องจากระยะประชิด อาจเกิดอันตรายกับตัวเจ้าหน้าที่ได้ ทำให้ตำรวจจำเป็นต้องยิงกระสุนยาง เพื่อป้องกันตนเอง ซึ่งช่วงเหตุชุลมุนบริเวณนี้ มีผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บ 2 คน จากนั้นที่บริเวณแยกวิทยุ หลังผู้ชุมนุมยื่นหนังสือที่สถานเอกอัครราชทูตเยอรมนี ประจำประเทศไทย ก็มีการขว้างปาระเบิดบริเวณแยกวิทยุ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน

โดยผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สั่งการให้พนักงานสอบสวน เร่งสืบสวนพิสูจน์ทราบว่า ผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บจากอาวุธชนิดใด และประสานแพทย์ในการพิสูจน์ทราบบาดแผลว่า เกิดจากสาเหตุใดก่อน จึงยังไม่สามารถสรุปได้ในขณะนี้ หากพบผู้กระทำผิด จะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาด พร้อมยืนยัน ผู้ปฏิบัติหน้าที่บริเวณสถาบันนิติเวชวิทยา ไม่มีการใช้กระสุนจริงตามที่เป็นข่าว ใช้เพียงกระสุนยางเท่านั้น ส่วนระยะที่ใช้จะใกล้เกินไปหรือไม่ ขึ้นอยู่กับชนิดของกระสุนยางที่ใช้

ส่วนการเผาทำลายศาลไม้จำลอง และเผาหุ่นฟางตุลาการจำลองนั้น พนักงานสอบสวน อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน หากเข้าข่ายความผิดหมิ่นศาล หรือผู้พิพากษา ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนความผิดอื่น ๆ เช่น ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน , เหตุขว้างปาระเบิดทำร้ายเจ้าหน้าที่ , และการทำลายทรัพย์สิน เช่น ตู้ไฟจราจร ก็อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิดผู้ฝ่าฝืนเช่นกัน

รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังฝากเตือนผู้ที่ไม่รู้ข้อเท็จจริง และเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จถึงกรณีเหตุปะทะดังกล่าว ว่าอาจเข้าข่ายความผิด ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ รวมถึง กรณีโพสต์ภาพผู้ชุมนุมหมอบกับพื้น ทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดและมองว่าเป็นพื้นที่เสี่ยงนั้น ตั้งข้อสังเกตว่าด้านหลังผู้ชุมนุมที่หมอบ ยังมีผู้สื่อข่าวและผู้ชุมนุมที่ยืนปฏิบัติหน้าที่ตามปกติแสดงให้เห็นว่า ไม่ใช่สถานการณ์อันตราย จึงขอประชาชนอย่าหลงเชื่อ ต้องมีการตรวจสอบและหากพบว่า มีเจตนาบิดเบือน ผู้โพสต์จะถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ด้วย


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แจ้งข้อมูลเบาะแส