จากกระแสข่าวราคาพริกในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาปรับตัวสูงขึ้น อยู่ที่เม็ดละ 1 บาท กรมการค้าภายในได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้ว พบว่า พริกที่จำหน่ายในจังหวัดนครราชสีมาและเป็นที่มาของข่าว เป็นพริกแดงเม็ดใหญ่ โดยราคาที่เป็นข่าวเป็นการนำพริกมาแบ่งบรรจุถุงขายปลีก ประกอบกับปัจจัยด้านสภาพอากาศทำให้ผลผลิตที่ออกสู่ตลาดลดลง ตั้งแต่ช่วงเดือน ธันวาคม 2563 โดยเฉพาะในแหล่งผลิตใหญ่ ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ อุบลราชธานี ชัยภูมิ ทำให้ราคาขายปลีกในท้องตลาดสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ปัญหาด้านสภาพอากาศได้คลี่คลายลงมากแล้ว เกษตรกรเก็บเกี่ยวผลผลิตและขายออกสู่ตลาดได้เพิ่มขึ้น โดยผลผลิตจะออกมาก กระจุกตัว ในช่วงปลายเดือนมกราคม -กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ราคาพริกปรับลดลงโดยลำดับ
จากการตรวจสอบราคาเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2564 พบว่าราคาพริกกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบพาณิชย์จังหวัดติดตามตรวจสอบภาวะการค้าปลีกพริกอย่างเข้มข้นใกล้ชิด เพื่อกำกับดูแลให้การตั้งราคาขายปลีกพริก สะท้อนต้นทุนที่ผู้ค้ารับซื้อมา และสอดคล้องกับสถานการณ์การผลิตการตลาด
ทั้งนี้ หากพบว่า มีการฉวยโอกาสขึ้นราคา จะให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย กรณีที่จงใจขายแพงเกินสมควร มีโทษจำคุก 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากผลผลิตพริก ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด ให้ดำเนินการเชื่อมโยงพริกจากแหล่งผลิต หรือตลาดกลางเข้าไปจำหน่ายโดยตรงต่อไป
นอกจากนี้ ในส่วนของการแบ่งเบาค่าครองชีพให้กับประชาชนในช่วงโควิด-19 กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ได้จัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพในราคาประหยัด ผ่านหลากหลายโครงการและผู้ประกอบการ โดยหนึ่งในโครงการที่เข้าถึงประชาชนทั่วประเทศ เช่น โครงการ “ธงฟ้าราคาประหยัด พัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น” จำหน่ายสินค้าในราคาประหยัด ซึ่งปัจจุบันมีร้านค้าสมัครเข้าร่วมโครงการทั่วประเทศ มีบริษัทผู้ผลิตที่ร่วมโครงการมากกว่า 100 ราย มีสินค้าที่เข้าร่วมโครงการประมาณ 140 สินค้าจำนวน 1,031 รายการ
