กรณีงานวิจัยพบความสัมพันธ์เกี่ยวข้องเรื่องการรับประทานเนื้อไก่และมีความเสี่ยงเกิดมะเร็ง เป็นเพียงผลการศึกษาเบื้องต้น เท่านั้น ไม่สามารถระบุว่า การกินไก่เป็นสาเหตุทำให้เกิดมะเร็ง
นายสัตวแพทย์ สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้องว่า งานวิจัยที่มีการอ้างอิงเป็นเพียงการแสดงความสัมพันธ์เบื้องต้นที่ยังต้องการข้อมูลเพิ่มเติมในการสนับสนุน โดยบทความวิจัยไม่ได้
มีการแสดงรายละเอียดกลไกสาเหตุที่ชัดเจนว่า การทานเนื้อไก่เป็นสาเหตุของมะเร็งจริง
นอกจากนี้ ยังมีการอ้างถึงในรายงานวิจัยนี้ว่าการเกิดมะเร็งนั้น อาจเกิดจากการได้รับปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ด้วย เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ หรือ สารตกค้างอื่นๆ เป็นต้น
ผู้ทำการวิจัย ได้กล่าวสรุปในตอนท้ายของบทความดังกล่าวว่า ความสัมพันธ์ของการทานไก่และการเกิดมะเร็ง ที่มีรายงานนั้น ก็ไม่ได้แสดงความสัมพันธ์อย่างชัดเจน จึงควรทำการศึกษาเพิ่มเติมในอนาคต
นอกจากนี้ ดร.โจชัว โบรดี้ ผอ.แผนกภูมิคุ้มกันโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง โรงเรียนแพทย์ Ichan ศูนย์วิทยาศาสตร์และการแพทย์ ได้ให้ข้อเท็จจริงอีกด้าน กับสื่อ NEW YORK DAILY NEWS ว่า ยังไม่สมควร นำงานวิจัย มาแนะนำผู้คน หรือ บอกให้พวกเขาหยุดกินไก่ทั้งหมด มีปัจจัยหลายประการสามารถ นำไปสู่โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ปัจจัยหนึ่งที่ดูเหมือนจะเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง คือ การอักเสบ ซึ่งอาจเกิดได้หลายรูปแบบ
รูปแบบหนึ่ง คือ โรคแพ้ภูมิตัวเอง เช่น โรคลูปัส กลุ่มอาการของโรค Sjogren
รูปแบบอื่น เช่น การติดเชื้อ หนึ่งคือการติดเชื้อ เช่น การติดเชื้อแบคทีเรีย H. Pylori
ดังนั้น ความเชื่อมโยงของการกินไก่และการเกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลือง อาจเป็น“ สาเหตุ” หรือ“ความบังเอิญ” ก็ได้
อธิบดีกรมปศุสัตว์ ยังได้ย้ำว่า ตลอดหลายปีที่ผ่านมานั้น ไม่เคยมีรายงานวิจัยใดที่บ่งชี้ว่าการทานเนื้อไก่ทำให้ก่อมะเร็ง รวมถึงงานวิจัยชิ้นนี้ ไม่สามารถระบุความชัดเจนในประเด็นนี้ จึงขอให้ประชาชนสบายใจว่าการรับประทานเนื้อไก่ยังมีความปลอดภัย
หากประชาชนพบข่าวหรือข้อมูลใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับกรมปศุสัตว์ สามารถแจ้งหรือขอข้อมูลที่ถูกต้องจากเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ในพื้นที่ หรือแจ้งสายด่วนของกรมปศุสัตว์ 063-225-6888 หรือ ผ่านแอปพลิเคชั่น DLD 4.0 ได้ทันที