35 views

รัฐบาลเดินหน้าส่งเสริม “กฎหมายสมรสเท่าเทียม” รับรองสิทธิการสมรสสำหรับทุกคู่รัก


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน Kick off แสดงความพร้อมเชิงสัญลักษณ์ “มอบธงแห่งความรักทั่วไทย” ตามโครงการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านการบริการประชาชนบนหลักการความเสมอภาคและเท่าเทียม ภายใต้แนวคิด “สมรสเท่าเทียม ยินดีกับทุกความรัก 878 อำเภอ ทั่วไทย (Embracing Equality : Love Wins in 878 Districts)” เมื่อวันที่ 13 ม.ค. 68 จัดโดย กรมการปกครอง ร่วมกับ สหประชาชาติในประเทศไทย (United Nations Country Team in Thailand) โดยมี น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย คุณมิเกลล่า ฟิลแบรย์-สตอเร่ (H.E. Ms. Michaela Friberg-Storey) ผู้แทนเลขาธิการสหประชาชาติประจำประเทศไทย (United Nations Resident Coordinator in Thailand) เอกอัครราชทูตประเทศต่างๆ และภาคีเครือข่าย เข้าร่วม

นายอนุทิน กล่าวแสดงความพร้อมของกระทรวงมหาดไทยในการให้บริการประชาชนตามกฎหมายสมรสเท่าเทียม และมอบธงสัญลักษณ์ให้กับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการจังหวัด 76 จังหวัด พร้อมระบุว่า การร่วมเป็นพันธมิตรระหว่างกระทรวงมหาดไทยและสหประชาชาติประเทศไทยเป็นพลังที่สำคัญ แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือที่เข้มแข็งระหว่างสหประชาชาติและรัฐบาลไทยในการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียมทางเพศและย้ำว่าประเทศไทยให้ความสำคัญในการส่งเสริมความเท่าเทียมและสิทธิมนุษยชนในการให้บริการสาธารณะกับประชาชน โดยเฉพาะในการดำเนินการตาม พ.ร.บ. แก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 หรือที่เรียกว่า กฎหมายสมรสเท่าเทียม ซึ่งรับรองสิทธิในการสมรสสำหรับทุกคู่รัก

  • กระทรวงมหาดไทยและกรมการปกครองภูมิใจที่ได้เป็นผู้ขับเคลื่อนโครงการนี้ในฐานะนายทะเบียนกลาง สำหรับการทำหน้าที่นายทะเบียนให้กับทุกความรักทั่วประเทศ
  • สะท้อนถึงความมุ่งมั่นที่แน่วแน่ในการให้บริการจดทะเบียนที่ยึดถือหลักการของความเสมอภาคและความเท่าเทียม ให้บริการอย่างราบรื่นและถูกต้องตามกฎหมายสำหรับทุกคู่รัก เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในระเบียบและระบบที่ให้คุณค่าแก่ความหลากหลายและเคารพศักดิ์ศรีของประชาชน
  • ตระหนักถึงพันธกรณีของไทยในฐานะประเทศใหม่ที่มีกฎหมายสมรสเท่าเทียม สอดคล้องเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน* (Sustainable Development Goals: SDGs) โดยเฉพาะเป้าหมายที่ 5 ว่าด้วยความเท่าเทียมทางเพศ และเป้าหมายที่ 10 ว่าด้วยการลดความเหลื่อมล้ำ

*(เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) มีทั้งหมด 17 เป้าหมาย (Goals) ที่รับรองร่วมกันโดย 193 ประเทศสมาชิกขององค์การสหประชาชาติ เป็นทิศทางการพัฒนาที่ทุกประเทศต้องดำเนินการร่วมกัน 15  ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2559 -2573)

พร้อมย้ำว่า กิจกรรมดังกล่าวไม่เพียงแค่ส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในระดับโลก แต่ยังสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในระบบการบริการที่มีความโปร่งใส เท่าเทียม และยุติธรรมอีกด้วย และร่วมกันก้าวไปข้างหน้าด้วยความเชื่อมั่นว่า “ความรักไม่มีพรมแดน” และ “ความเท่าเทียม” คือสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนควรได้รับอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน

กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับ 23 ม.ค. 68 เน้น 4 ด้าน

นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่า กรมการปกครองในฐานะนายทะเบียนกลางได้เตรียมความพร้อมให้กับสำนักทะเบียนอำเภอ 878 แห่ง สำนักทะเบียนเขต กทม. 50 เขต และสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลไทยในต่างประเทศ 94 แห่ง เพื่อสอดคล้องกับ พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 หรือกฎหมายสมรสเท่าเทียม ที่จะมีผลใช้บังคับในวันที่ 23 มกราคม 2568 รวม 4 ด้านคือ

1) ด้านระเบียบ ได้ร่างระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการจดทะเบียนครอบครัว (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2568 เพื่อรองรับการอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวระหว่างบุคคลเพศหลากหลาย ทำให้คู่รักสามารถหมั้นและสมรสกันได้ ซึ่งจะทำให้มีสิทธิ หน้าที่และสถานะทางครอบครัวเท่าเทียมกัน และเสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัว ที่ก่อตั้งขึ้นระหว่างบุคคลทั้งสองฝ่าย

2) ด้านระบบ ได้มีการแก้ไขระบบทะเบียนสมรสและทะเบียนหย่า และมีการทดสอบระบบเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งจัดเตรียมผลิตแบบพิมพ์ ใบสำคัญการสมรส (คร.3) และใบสำคัญการหย่า (คร.7) เพื่อรองรับการให้บริการที่เพิ่มสูงขึ้น

3) ด้านบุคลากร ได้จัดทำชุดความรู้และอบรมเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทะเบียนใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ ความรู้ด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด การปรับกรอบความคิดในการให้บริการประชาชน และการบริการที่เป็นสากลบนหลักความเสมอภาคและเท่าเทียม คำนึงถึงมารยาทสากลและหลักสิทธิมนุษยชน

4) ด้านการจัดกิจกรรม ได้แก่ กิจกรรม Kick Off “มอบธงแห่งความรักทั่วไทย” และกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ที่จะจัดขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศ ณ ที่ว่าการอำเภอ ทั้ง 878 แห่ง ในวันที่ 23 ม.ค. 68 ซึ่งเป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลบังคับใช้ เพื่อเฉลิมฉลองให้กับทุกความรักตามแนวคิด “กรมการปกครองยินดีเป็นนายทะเบียนให้กับทุกความรัก” ทั้งนี้ พี่น้องประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่สายด่วน สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง โทร. 1548 หรือที่ว่าการอำเภอ และสำนักงานเขต ทุกแห่งทั่วประเทศ

เปิดทำเนียบถ่ายภาพประวัติศาสตร์ “สมรสเท่าเทียม”

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานร่วมบันทึกภาพเนื่องในโอกาสประเทศไทยประกาศใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียม ณ สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยมีทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม รวมทั้งเอกอัครราชทูตและผู้แทนต่างประเทศ อาทิ นาย Mark Gooding OBE เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย นาย Jean-Claude Poimboeuf เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย นาย Robert F. Godec เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย และ นางสาว Michaela Friberg-storey ผู้ประสานงานสหประชาชาติ พร้อมด้วยผู้แทนคู่รัก LGBTQ+ ร่วมถ่ายภาพฉลองความสำเร็จของกฎหมาย

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การถ่ายภาพฉลองความสำเร็จกฎหมายสมรสเท่าเทียม ถือเป็นการประกาศประวัติศาสตร์ความรักที่เท่าเทียมและยังเป็นการบันทึกความก้าวหน้าของประเทศไทยที่มีกฎหมายการสมรสเท่าเทียมแห่งแรกของอาเซียนและประเทศที่ 3 ของเอเชีย ส่งผลให้คนทั่วโลกรับทราบว่า รัฐบาลนี้ เป็นรัฐบาลที่เปิดรับความหลากหลายทางเพศในสังคม และจะขับเคลื่อนการพัฒนาภาพลักษณ์ทุกมิติ เพื่อให้ประเทศไทยเป็น LGBTQ+ Global Destination ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

รัฐบาลได้มอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เร่งทำความเข้าใจ ประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนได้เข้าใจถึงสิทธิต่างๆ ทั้งสิทธิการจัดการทรัพย์สินของคู่สมรส สิทธิรับบุตรบุญธรรม สิทธิการลงนามยินยอมให้รักษาพยาบาลอีกฝ่าย เป็นต้น ปัจจุบันนายทะเบียน 878 อำเภอทั่วประเทศ และ 50 เขตในกรุงเทพมหานคร พร้อมอำนวยความสะดวกในการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

แจ้งข้อมูลเบาะแส