32 views

แนะผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบางดูแลตนเองให้ปลอดภัยจากฝุ่น PM2.5


นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ว่า เป็นฝุ่นขนาดเล็กที่ก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพกับคนทุกกลุ่มวัย โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคร่วม ทำให้มีโอกาสเจ็บป่วยทั้งในระยะเฉียบพลันและเจ็บป่วยระยะเรื้อรังได้โดยง่าย ในกลุ่มผู้สูงอายุเหล่านี้ จะเดินหรือเคลื่อนย้ายลำบากและช้ากว่าคนที่แข็งแรง ทำให้ผู้ดูแลมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือให้ผู้สูงอายุได้ปลอดภัยจากฝุ่นละออง PM2.5

โดยมีข้อแนะนำคือ ติดตามสถานการณ์ PM2.5 จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ แจ้งเตือนภัยผลกระทบต่อสุขภาพจาก PM2.5 3สังเกตอาการที่เกี่ยวข้องกับ PM2.5 ของผู้สูงอายุ รวมทั้งเรื่องสุขภาพของผู้สูงอายุและรายงานให้ญาติของผู้สูงอายุทราบ และสามารถดูแลและป้องกันตนเองจาก PM2.5 ตลอดจนแนะนำการจัดสภาพแวดล้อมที่สะอาดปลอดฝุ่นแก่ผู้สูงอายุ

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า ฝุ่น PM2.5 สามารถส่งผลกระทบต่อผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอาการระคายเคืองตา โรคทางเดินหายใจ ผิวหนังอักเสบ หรือผิวหนังเสื่อมชราเร็ว โรคหลอดเลือดสมองและหลอดเลือดหัวใจ และภาวะสมองเสื่อม  

กรมการแพทย์มีข้อแนะนำ ในการจัดสภาพบ้านให้เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุคือ ปิดประตู หน้าต่าง หรือช่องรูต่างๆ ให้มิดชิดกันฝุ่นละอองเข้ามาในบ้าน ทำความสะอาดบ้านทุกวันโดยใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดหรือถู แทนการใช้ไม้กวาดหรือไม้ปัดฝุ่น ไม่ทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่นภายในห้อง เช่น จุดธูป จุดเทียน การเผา การใช้สารเคมีในอาคาร เปิดพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศเพื่อให้อากาศภายในห้องเกิดการหมุนเวียน แต่ไม่แนะนำการใช้พัดลมดูดอากาศซึ่งจะดูดเอาอากาศและฝุ่นจากภายนอกเข้ามาในบ้าน พิจารณาเลือกใช้เครื่องกรองอากาศอย่างเหมาะสม (ไม่ควรวางไว้ใต้เครื่องปรับอากาศหรือติดกับพัดลม เนื่องด้วยอากาศที่ยังไม่ถูกกรองจะถูกดูดเข้าเครื่องปรับอากาศ หรือพัดลมก่อนเข้าเครื่องกรองอากาศ และหลีกเลี่ยงการวางเครื่องกรองอากาศไว้ใกล้ห้องน้ำเพื่อกันการดูดความชื้นและปล่อยความชื้นออกมาทำให้ห้องอับเป็นเชื้อรา) 

นอกจากนี้ หากพบว่าอากาศมีค่าฝุ่น PM2.5 เกินเกณฑ์ปกติ ควรแนะนำผู้สูงอายุให้งดการออกนอกบ้าน หรือหากจำเป็นควรสวมใส่หน้ากากเพื่อป้องกันฝุ่น เตรียมยาเวชภัณฑ์ที่จำเป็น เช่น ยาประจำตัว ยาสามัญประจำบ้าน และเฝ้าสังเกตอาการผิดปกติในผู้สูงอายุ หากผู้สูงอายุมีอาการแน่นหน้าอก หายใจลำบาก วิงเวียนศีรษะ หรือหมดสติ แนะนำให้พาผู้สูงอายุพบแพทย์ทันที


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

แจ้งข้อมูลเบาะแส