นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ถึงสถานการณ์ไฟไหม้ป่า
ที่ตำบลพญาเย็น อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ได้สั่งการให้ทุกส่วนร่วมกันบูรณาการในการดับไฟ และเฝ้าระวังจนกว่าจะแน่ใจได้ว่าไฟดับอย่างถาวร
ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยถึงสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ ตำบลพญาเย็น อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ว่าพื้นที่ไฟไหม้ดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาเสียดอ้า ป่าเขานกยูง และป่าเขาอ่างหิน ท้องที่บ้านพญาเย็น หมู่ที่ 13 ต่อเนื่องถึงบ้านโศกลึกพัฒนา หมู่ที่ 9 ตำบลพญาเย็น อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้ ห่างจากแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ประมาณ 5 กิโลเมตร
โดยจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้สั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่จากส่วนงานต่างๆ ได้แก่ ศูนย์ปฏิบัติการไฟป่านครราชสีมา สถานีควบคุมไฟป่าเขาใหญ่ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นม. 1 (ปากช่อง) กรมป่าไม้ ศูนย์ส่งเสริมการควบคุมไฟป่านครราชสีมา ศูนย์ส่งเสริมการควบคุมไฟป่าปราจีนบุรี และ อบต.พญาเย็น สนธิกำลังกันเข้าควบคุมและดับไฟป่าอย่างเร่งด่วนตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2568 พร้อมส่งเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรฯ เข้าสนับสนุนภารกิจและทำการโปรยน้ำเพื่อลดความร้อนในบริเวณหน้าผาที่กำลังเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ เพื่อเร่งควบคุมสถานการณ์และดับไฟป่าให้ได้โดยเร็ว
นอกจากนี้ ยังได้บูรณาการร่วมกับกองทัพภาค 2 และทุกภาคส่วนร่วมกันในการปฏิบัติงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเป็นสำคัญและหากต้องการการสนับสนุนเพิ่มเติมกระทรวงทรัพยากรฯ ยินดีให้การสนับสนุนอย่างเต็มกำลัง ในเบื้องต้นพบว่า มีพื้นที่ไฟไหม้อยู่บริเวณเขาลอย ได้รับความเสียหายแล้วประมาณ 1,700 ไร่ จากพื้นที่ทั้งสิ้นประมาณ 25,000 ไร่
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมกับกองทัพบก (ทบ.) รายงานความคืบหน้าการปฏิบัติภารกิจดับไฟป่าเขาใหญ่ของเฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32 โดยหลังจากบินทิ้งน้ำดับไฟในพื้นที่ที่ได้รับมอบหมายจำนวน 10 เที่ยวบิน มีปริมาณน้ำกว่า 30,000 ลิตร สามารถควบคุมไฟป่าได้เกือบทั้งหมด
สำหรับการดำเนินการขั้นต่อไป ศูนย์ปฏิบัติการดับไฟป่าส่วนหน้า ต.พญาเย็น ได้มอบหมายให้เฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรฯ บินทิ้งน้ำในพื้นที่เสี่ยงเพื่อควบคุมป้องกันไฟที่อาจกลับมาปะทุลุกไหม้ได้อีกโดยเฮลิคอปเตอร์กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32 จะเตรียมพร้อมในบริเวณใกล้เคียงเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงาน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่จะใช้โดรนบินตรวจจับความร้อนเพื่อเป็นข้อมูลในการควบคุมไฟป่าครั้งนี้ด้วย รวมทั้งได้มีแผนให้หน่วยงานที่ร่วมการปฏิบัติภารกิจฯ ร่วมเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่องเพื่อให้มั่นใจว่าสามารถควบคุมการลุกไหม้ของไฟป่าได้ทั้งหมดของพื้นที่
นายกิตติ เตียวตระกูลวัฒน ผู้อำนวยการส่วนควบคุมไฟป่า สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ กล่าวถึงสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ว่า เฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังขึ้นบินทิ้งน้ำดับไฟป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาเสียดอ้า ป่าเขานกยูง และป่าเขาอ่างหิน ตำบลพญาเย็น อำเภอปากช่อง ต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณด้านหน้าผาสูงชัน เพื่อป้องกันการเกิดสะเก็ดไฟหล่นมาภาคพื้นดินข้างล่าง เนื่องจากไฟยังไม่ดับสนิทและเจ้าหน้าที่เข้าไปเก็บแนวดำไม่ได้จากไฟที่ประทุขึ้นอีกครั้ง เพราะมีลมพัดแรงและมีเชื้อเพลิงที่เป็นไม้ไผ่แห้งตายได้ลุกลามต่อจากแนวเดิมประมาณ 300 เมตร ด้านเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินกว่า 50 นาย ประกอบด้วย เหยี่ยวไฟศูนย์ส่งเสริมการควบคุมไฟป่านครราชสีมา ปราจีนบุรี หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นม.1 (ปากช่อง) สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (นครราชสีมา) กรมป่าไม้ เสือไฟศูนย์ปฏิบัติการไฟป่านครราชสีมาและขอนแก่น อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และองค์การบริหารส่วนตำบลพญาเย็น ร่วมกันสนธิกำลังเดินเท้าเข้าควบคุมแนวไฟและเก็บแนวดำ ส่วนสาเหตุของการเกิดไฟป่า น่าจะมาจากฝีมือมนุษย์ เพราะเจ้าหน้าที่ที่ขึ้นไปดับไฟ พบปลอกกระสุนขนาด .22 สภาพใหม่ หลายปลอก อาจมีคนที่ขึ้นไปล่าสัตว์แล้วจุดไฟเพื่อไล่สัตว์
