นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงการปรับขึ้นค่าแรง 400 บาทว่า ปลัดกระทรวงแรงงานเชิญคณะกรรมการไตรภาคี ประชุมในวันพรุ่งนี้ เพื่อนำนโยบายของรัฐบาลเข้าหารือ หากทุกฝ่ายในที่ประชุมเห็นด้วยก็จะสามารถผ่านได้ แต่หากยังไม่ได้ข้อสรุปก็จะเรียกประชุมครั้งที่ 2 ภายใน 15 วัน หรือในวันที่ 23 ธันวาคม 2567 เชื่อว่าการประชุมในครั้งที่ 2 จะมีความเรียบร้อย
ส่วนเรื่องแนวทางจะเป็นอย่างไรนั้น ขอดูการประชุมในวันพรุ่งนี้ก่อน หากตกลงกันได้ก็จะสามารถอนุมัติได้ก่อนเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้พิจารณา เชื่อว่าจะทันเป็นของขวัญปีใหม่อย่างแน่นอน และเมื่อเช้าได้มีการหารือกับปลัดกระทรวงแรงงานแล้ว
ส่วนฝ่ายนายจ้างยังไม่อยากให้มีการปรับขึ้นค่าแรงในขณะนี้นั้น เชื่อว่าคงจะมีแนวทาง โดยปลัดกระทรวงแรงงานก็ได้มีการพูดคุยกันนอกรอบกับฝ่ายนายจ้างบ้างแล้ว ซึ่งมีแนวโน้มเป็นไปได้และจะมีการหาแนวทางให้กระทบกับเศรษฐกิจน้อยที่สุด ย้ำว่าจะต้องมีการปรับขึ้นค่าแรงตามนโยบายของรัฐบาล
ขณะที่ความกังวลของภาคเอกชน หากมีการปรับขึ้นค่าแรงจะกระทบกับสินค้าปรับตัวสูงขึ้น หรือกระทบจนต้องมีการย้ายฐานผลิตไปต่างประเทศ นายพิพัฒน์ระบุว่าการย้ายฐานการผลิตก็มีการย้ายอยู่แล้ว มีส่วนที่ปิดกิจการและมีอีกส่วนที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย ถือเป็นเรื่องปกติของทุกปีที่มีการหมุนเวียน ดังนั้นในเรื่องของการลงทุน หรือบางธุรกิจที่ไม่สามารถดำเนินการต่อได้ก็ปิดกิจการ ซึ่งก็ต้องเข้าใจโดยเฉพาะที่มีความกังวลมากโดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับการผลิตรถยนต์ประกอบรถยนต์ในประเทศ ได้รับผลกระทบเรื่องการผลิตอะไหล่ จากการเข้ามาของ ยานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี แต่กระทรวงแรงงานพยายามหาทางออกที่ดีที่สุด โดยจะใช้โมเดลปี 2555 ขณะนี้ได้มีการศึกษาไปแล้วและจะนำเรื่องนี้เข้าหารือกับนายกรัฐมนตรีเพื่อขอความเห็นจากนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล และกระทรวงการคลังที่ดูแลในเรื่องของเศรษฐกิจ ซึ่งโมเดลปี 2555 กับปัจจุบันมีความแตกต่างกันไม่มาก เพราะขณะนั้นเศรษฐกิจของประเทศไทยก็ไม่ได้ดีมาก แต่ยังสามารถเดินหน้าไปได้ครั้งนี้เชื่อว่าการเดินหน้าก็คงจะไม่มีปัญหาเช่นกัน คาดว่าน่าจะมีการประกาศโดยใช้โมเดลของปี 2555 ขอให้รอฟังผลการประชุมคณะกรรมการไตรภาคีในวันพรุ่งนี้