โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งประชาชนกลุ่มเปราะบาง เร่งผูกผูกบัญชีกับระบบพร้อมเพย์ หลังกรมบัญชีกลางโอนเงิน 10,000 บาท ไม่สำเร็จ 4 หมื่นกว่าคน ฝากลูกหลานผู้ใกล้ชิดดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 16 ธันวาคม 67 เพื่อให้ทันต่อรอบการจ่ายซ้ำครั้งสุดท้ายในวันที่ 19 ธันวาคม 2567
ภาพรวมการโอนเงิน 10,000 บาท ให้กลุ่มเปราะบาง โอนเงินไม่สำเร็จ 4 หมื่นกว่าคน
(24 พ.ย. 67) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย ภาพรวมการโอนเงิน 10,000 บาท ให้แก่กลุ่มเปราะบางที่ผ่านมาว่า ขณะนี้โครงการเติมเงินผ่านดิจิทัลวอลเล็ตในรอบจ่ายซ้ำ ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 67 ได้มีการโอนเงินไปแล้วทั้งสิ้น จำนวน 73,967 ราย แบ่งเป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 59,568 ราย และคนพิการ 14,399 ราย โดยในจำนวนดังกล่าวโอนสำเร็จไปแล้วจำนวน 30,268 ราย และโอนไม่สำเร็จอีก 43,699 ราย แบ่งเป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 39,399 ราย และคนพิการอีก 4,300 ราย
เปิด 5 สาเหตุหลักที่ทำให้โอนเงินไม่สำเร็จ
สาเหตุหลักของการโอนเงินไม่สำเร็จ ส่วนใหญ่เกิดจาก
- ผู้มีสิทธิยังไม่ผูกบัญชีกับระบบพร้อมเพย์ จำนวน 40,157 ราย
- บัญชีธนาคารของผู้มีสิทธิ ไม่มีความเคลื่อนไหวในบัญชี จนทำให้ธนาคารปิดบัญชีไป
- ไม่มีบัญชีเงินฝากธนาคาร
- เลขบัญชีธนาคารไม่ถูกต้อง
- บัญชีธนาคารติดเงื่อนไขอื่น ๆ
ฝากลูกหลาน เร่งดำเนินการผูกบัญชี ภายในวันที่ 16 ธ.ค. 67
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า “ขอฝากลูกหลานที่พอมีความรู้เรื่องการเปิดบัญชีพร้อมเพย์ หรือตรวจสอบบัญชีของญาติผู้ใหญ่ และคนในครอบครัวที่มีสิทธิ ว่าได้ดำเนินการแล้วหรือยัง ทั้งผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ โดยให้เร่งดำเนินการผูกบัญชีธนาคารพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน ภายในวันที่ 16 ธ.ค. 67 ส่วนคนพิการที่บัตรประจำตัวคนพิการหมดอายุหรือสูญหายขอให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 3 ธ.ค. 67 เพื่อให้ทันต่อรอบการจ่ายซ้ำครั้งที่ 3 ในวันที่ 19 ธ.ค. 67 ซึ่งจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว และหากพ้นกำหนดครั้งที่ 3 ไปแล้วทางกรมบัญชีกลางโดยกระทรวงการคลัง จะยุติการจ่ายเงินให้แก่กลุ่มผู้มีสิทธิและถือว่ากลุ่มผู้มีสิทธิไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการดังกล่าว