จากกรณีที่มีสื่อสังคมออนไลน์เผยเเพร่ระเบียบคณะกรรมการโรงเรียนแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ว่ามีบทลงโทษภาคทัณฑ์นักเรียนที่ได้รับผลการประเมินไม่ผ่านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ หนึ่งในนั้น คือ การเบี่ยงเบนทางเพศ โดยมองว่าเรื่องดังกล่าวไม่ใช่แก่นการพัฒนาศักยภาพด้านการศึกษาที่เเท้จริง นั้น
นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวชี้แจงว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องเพศ โดยจัดให้มีหลักสูตรเพศวิถีศึกษา (Sexuality education) เป็นวิชาเพิ่มเติมสำหรับการเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา เป็นวิชาการศึกษาที่ว่าด้วยความรู้ ความเข้าใจในเรื่องเพศที่ถูกต้อง เพื่อให้เกิดการยอมรับ เช่น
- การดูแลปฏิบัติรักษาตนเองในเรื่องสุขอนามัย
- การรู้และเข้าใจถึงพัฒนาการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย อารมณ์ และสติปัญญาตามวัย
- การสร้างสัมพันธ์ระหว่างวัย สร้างการรับรู้บทบาทของเพศวิถีศึกษาที่สำคัญๆ ให้นักเรียน
- เข้าใจและยอมรับหน้าที่ตามเพศของตนและผู้อื่น
- เข้าใจความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันในฐานะเพื่อน ให้เกียรติกัน
- สร้างความตระหนักถึงความแตกต่างในลักษณะการนึกคิดและพฤติกรรมทางเพศ และยอมรับความแตกต่าง
- เข้าใจการเลือกคู่
- เข้าใจการเตรียมตัวรับผิดชอบต่อครอบครัว
- เข้าใจการเลี้ยงดูบุตรธิดาให้เติบโตเป็นพลเมืองดีของสังคม เป็นต้น
นอกจากนี้ สพฐ. ยังได้กำหนดมาตรการและแนวทางในการจัดการเรียนรู้เพศศึกษาและการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่นักเรียน โดยมีหนังสือเร่งรัดการจัดการเรียนการสอนเพศศึกษาในทุกระดับชั้นอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยแจ้งไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศให้ถือปฏิบัติ ตามหนังสือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ด่วนมาก ที่ศธ 04277/ว295 ลงวันที่ 9 มีนาคม 2560
ทั้งนี้ สพฐ. ไม่ได้ปล่อยปละละเลยปัญหาเรื่องการเหยียดเพศ-ละเมิดสิทธิ แต่อย่างใด ส่วนกรณีที่เป็นข่าวนั้น สพฐ. จะทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อรับฟังข้อมูลอย่างรอบด้าน หากพบว่าเป็นจริงตามข่าวที่ปรากฏ จะมอบหมายให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาซึ่งเป็นต้นสังกัด ดำเนินการให้ถูกต้องตามระเบียบ กฎหมาย และหลักสิทธิมนุษยชนต่อไป